ใครเคยมีปัญหาแบบนี้บ้างคะ มาเที่ยวญี่ปุ่นแล้วเวลาน้อย ไม่มีเวลาไปเดินตระเวนหาซื้อขนม ของฝากจากโตเกียวกลับไปฝากคนที่เมืองไทย ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปค่ะ เมื่อมาที่นี่ค่ะ ที่ Tokyo Station เพราะมีโซนขายขนมตัวเด็ด ๆ ชื่อดังของญี่ปุ่นที่คนทั่วโลกรู้จักกันดี โซนนี้มีชื่อว่า “Tokyo Okashi Land” โอคาชิ (Okashi ,お菓子) ในภาษาญี่ปุ่นมีความหมายว่า “ขนม” ค่ะ สำหรับโซนนี้ได้รวบรวม ขนมแบรนด์ดัง ๆ ไว้ถึง 3 แบรนด์ให้ได้ซื้อเป็นของฝากกัน ไปดูกันดีกว่าค่ะ ว่าแต่ละแบรนด์จะมีทีเด็ด อะไรบ้าง เอ้าเริ่มเลยนะ...
สำหรับแบรนด์ กูลิโกะ อยู่คู่กับคนญี่ปุ่นมายาวนานมาก ๆ ค่ะ ถือกำเนิดครั้งแรกในปี 1922 โอ้โห ..คุณพระ!! ถ้าจะนับกันจริง ๆ ก็เกือบจะ 100 ปีแล้วนะ ขนมระดับตำนานเลยค่ะ และสำหรับคนไทยต้องรู้จักกันดี เพราะแบรนด์นี้ มีจำหน่ายที่เมืองไทยมากว่า 50 ปี แล้วค่ะ (เข้าสู่เมืองไทยครั้งแรกในปี ค.ศ. 1970) ถ้าใครไม่รู้จัก นี่ต้องเชยสุด ๆ เลยนะคะ หุหุ
มาดูกันภายในร้านดีกว่าค่ะ ภายในร้านมีขนม หลากหลายชนิดที่ผลิตภายใต้แบรนด์ กูลิโกะ ออกมาจำหน่ายแบบจัดเต็มทั้งนั้นเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น โคลอน, ป๊อกกี้, เพรซ ฯลฯ และความเด็ดก็อยู่ที่ว่าภายในร้านได้รวบรวมสินค้าที่หายาก ชนิดที่มีจำหน่ายเฉพาะแต่ละภูมิภาค เอามารวมไว้ที่นี่อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น เพรซ (Pretz) หลากหลายรสชาติจากทุกภูมิภาค
แบบกล่องวินเทจก็มีจำหน่ายด้วยค่ะ
กูลิโกะโคลอน แท่งยาวยักษ์ราคา 1,080 เยน
เรนโบว์ ป๊อกกี้ 5 รสชาติ (ช็อกโกแลต, เมลอน, ชาเขียว, สตรอเบอร์รี่, องุ่น ราคา 1,296 เยน) เป็นสินค้าที่หาซื้อได้ที่นี่ เพราะว่าเป็นโตเกียวลิมิตเต็ดอิดิชั่นค่ะ
อมยิ้มกูลิโกะ , ครีมช็อกโกแลต และ ครีมคาราเมล
แม้แต่ของใช้อย่างอื่น อย่างเช่น เสื้อยืดหรือยางลบ ที่มีลวดลายโลโก้กูลิโกะ ก็ยังมีจำหน่ายด้วยเลยค่ะ เรียกได้ว่าใครเป็นแฟนกูลิโกะ ฟินแน่นอน
แต่ความเด็ดที่กล่าวมาแค่นี้ก็ยังไม่จี๊ดยังไม่โดนใจนะคะ เพราะกูลิโกะเค้ามีทีเด็ดมากกว่านั้นค่ะ ก็ดูจากชื่อร้าน “กูลิโกะ ยะ คิชเช่น” ที่บ่งบอกถึงความเป็นครัว ใช่แล้วค่ะ!!!!
ทางร้านเค้ายกห้องครัวแบบเปิดมาไว้ในร้านเพื่อให้ผู้บริโภคได้เห็นอัลมอนด์แบบต่างๆ และขั้นตอนการผลิตช็อกโกแลตอัลมอนด์กันแบบสด ๆ ได้เห็นถึงความใส่ใจที่ทำด้วยหัวใจทุกขั้นตอน พร้อมส่งต่อให้ถึงมือผู้บริโภคด้วยรอยยิ้ม
ที่สำคัญช็อกโกแลตที่ผลิตกันสด ๆ ภายในร้านนี้ ยังเป็นแบบลิมิเต็ดอีกด้วยนะคะ เพราะทางร้านจะผลิตเพื่อจำหน่าย ประมาณวันละ 50 กล่องเท่านั้น !!!
โอ้โห สินค้าตัวนี้ก็อาจจะกลายเป็นสินค้าที่หายากไปอีกหนึ่งชิ้นที่ใคร ๆ ก็ต้องมาซื้อค่ะ ในส่วนของรสชาติไม่ต้องพูดถึง บอกเลยว่าคุณค่าที่คุณคู่ควรมาก ๆ เพราะอร่อยจน หยุดไม่ได้จริง ๆ อย่าเชื่อจนกว่าจะได้มาลอง บอกเลยว่าคุณจะต้องหลงรักอย่างแน่นอนค่ะ
สำหรับสินค้าลิมิเต็ดที่ว่ามี 2 รสชาติให้เลือก ดูจากสีกล่องนะคะ
1.กล่องสีแดงเป็นช็อกโกแลตเคลือบถั่วอัลมอนด์ (Almond Chocolate Cocoa )
ช็อกโกแลตหอมละมุน ส่วนถั่วอัลมอนด์ กรอบกรุบ รสชาติแบบที่คุ้นเคย ใครที่ชอบช็อกโกแลตกับถั่วอัลมอนด์ คงจะถูกใจ แน่นอน ด้วยความที่เป็นช็อกโกแลตที่ผลิตกันแบบสด ๆ ก็จะต้องเก็บไว้ในที่อากาศเย็น ๆ และอายุของ สินค้าก็จะไม่นานนัก แต่บอกเลยว่าอร่อยเด็ดจริง ๆ ค่ะ
2.กล่องสีเขียว เป็นช็อกโกแลตเคลือบถั่วแมคคาเดเมีย (Macadamia Chocolate Cocoa)
ช็อกโกแลตเม็ดกลม ด้านนอกหอมกรุ่นด้วยผงโกโก้ที่เคลือบผิวอยู่ เข้ากันได้ดีกับช็อกโกแลตและถั่วแมคคาเดเมีย ทุกคำรสสัมผัสละมุน เข้มข้นช็อกโกแลต และความมันของถั่ว อร่อยจนต้องบอกต่อจริง ๆ ค่ะ
รสชาติที่ได้ลองสัมผัส ได้ทั้งความหอมผงโกโก้ที่โรยเคลือบด้านนอก เนื้อช็อกโกแลตที่ปรุงสด ๆ และ ถั่วที่คั่วใหม่ ๆ กรอบกรุบอยู่ด้านใน ให้ความรู้สึกสดใหม่ เพราะผลิตกันวันต่อวัน และทุกวัตถุดิบ เข้ากันได้อย่างลงตัว อัลมอนด์ช็อกโกแลต ราคากล่องละ 520 เยน หรือ แมคคาเดเมียเช็อกโกแลต กล่องละ 620 เยน จะซื้อแบบเซ็ตที่มีทั้งสองรสชาติอย่างละ 1 กล่อง ในราคา 1,140 เยนก็เรียกได้ว่าเป็นของฝากที่คุณคู่ควรจริง ๆ ค่ะ สำหรับขนมลิมิเต็ดกล่องนี้ แค่มีเงินอย่างเดียวก็ซื้อไม่ได้นะคะ ต้องไปให้ทัน เพราะว่าหนึ่งวันจะผลิตออกมาประมาณ 50 กล่องเท่านั้นค่ะ
ใครที่เป็นแฟนขนมกูลิโกะ และอยากซื้อสินค้าแบบลิมิเต็ด หรือ Rare Item แนะนำว่ามาที่นี่เลยค่ะ Tokyo Okashi Land ขุมทรัพย์แห่งความอร่อย รอเพื่อน ๆ อยู่แล้ว ถึงมีเวลาเพียงน้อยนิดก็สามารถ ซื้อได้ครบจบในที่เดียว และไม่ต้องเสียเวลาเดินหาเดินเก็บไอเท็มให้เมื่อย เพราะของเด็ด ๆ รวมไว้ที่นี่แล้วค่ะ
สำหรับการขอภาษีคืนของร้านกูลิโกะ ยะ คิชเช่นนั้น สังเกตว่าป้าย Tax Free ของทางร้านเป็นสีขาว หมายความว่าต้องซื้อของในร้านอย่างต่ำ 5,000 เยน ขึ้นไปจึงจะขอภาษีคืนได้ ไม่สามารถนำยอดไปรวมกับร้านอื่นๆ ได้นะคะ
อีกหนึ่งแบรนด์ขนมญี่ปุ่น ที่คุณคุ้นเคยสำหรับคนไทยอาจจะคุ้นเคยกับ “คาลบี้” จากขนมบรรจุห่อ ไม่ว่าจะเป็นข้าวเกรียบกุ้งและขนมมันฝรั่งแท่งกรอบ ฯลฯ ที่มีจำหน่ายที่เมืองไทย มายาวนานกว่า 30 ปี (เริ่มเข้าสู่ประเทศไทยตั้งแต่ปี ค.ศ. 1980)
แต่สำหรับที่ญี่ปุ่นแบรนด์นี้มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1949 สำหรับชื่อของบริษัทคาลบี้ (Calbee) มีที่มาที่ไปอย่างน่าสนใจมากค่ะ คำว่า “CAL” มีเสียงพ้องมาจากคำว่าแคลเซียม (Calcium) ในภาษาอังกฤษ และคำว่า “bee” มาจากคำว่าวิตามินบี 1 (Vitamin B1) จึงเป็นที่เด่นชัดว่า ชื่อของบริษัทฯ บ่งบอกความหมายเป็นนัย ถึงเจตนารมย์อันมุ่งมั่นของคาลบี้ ที่มุ่งส่งเสริมสุขภาพ ที่ดีด้วยการบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารที่อุดมด้วยคุณค่าจากธรรมชาติ โอ้โห!!! คอนเซ็ปต์ ของการคิดชื่อ ดีงามมากจริง ๆ เลยค่ะ
ร้าน Calbee plus ที่อยู่ในบริเวณโซน Tokyo Okashi Land นอกจากจะเป็นร้านที่ขายขนมที่ทำจาก มันฝรั่ง บรรจุห่อที่เป็นของฝากแล้ว ยังมีครัวเปิดไว้บริการอีกเช่นกันค่ะ ซึ่งครัวเปิดที่ว่านี้ก็ทำการผลิต ขนมมันฝรั่งแท่งทอดกรอบและมันฝรั่งแผ่นทอดกรอบ ครัวเปิดที่ทำกันสด ๆ ผู้บริโภคสามารถ มองเห็นขั้นตอน การผลิตที่สะอาด ปลอดภัยถูกหลักอนามัยและเพื่อต้องการให้ผู้บริโภคได้กินกัน แบบสด ใหม่ ใครไม่เคยทานแบบที่ทำกันสด ๆ
ขอแนะนำว่าคุ้มค่าแก่การได้ลองค่ะ เพราะความรู้สึก ที่ได้จะแตกต่างจากที่ผ่าน ๆ มาทั้งหมด มาค่ะ เราไปดูหน้าตา ของเมนูที่มีจำหน่ายภายในร้าน กันดีกว่าค่ะ ...แต่ละเมนูน่ากินทั้งนั้นเลย
ใครที่ชื่นชอบมันฝรั่งแผ่นทอดกรอบ บอกเลยฟินมาก มีหลากหลายรสชาติมาจำหน่ายด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น
รสชาติ Mild Soy Sauce (ซีอิ๊วญี่ปุ่น) เป็นรสชาติลิมิเต็ดที่มีจำหน่ายเฉพาะที่ Tokyo Okashi Land เท่านั้นค่ะ ราคา 290 เยน
รสชาติ Hokkaido Butter (เนยจากฮอกไกโด) ราคา 290 เยน
รสชาติ Double Cheese (ดับเบิ้ลชีส) ราคา 290 เยน
รสชาติ Sweet chocolate (สวีทชอคโกแลต) ราคา 310 เยน
รสชาติ Potato Chips & Soft Ice Cream (มันฝรั่งแผ่นทอดกรอบ และ ไอศกรีม) ราคา 410 เยน
รสชาติ Potato Chips Sweet Chocolate & Soft Ice Cream (มันฝรั่งแผ่นทอดกรอบราดสวีทชอคโกแลต และ ไอศกรีม) ราคา 460 เยน
Poteriko Salad (มันฝรั่งแท่งทอดกรอบ รสสลัด) ราคา 310 เยน **สินค้าขายดีอันดับ 1
Poteriko Cheese (มันฝรั่งแท่งทอดกรอบ รสชีส) ราคา 310 เยน
Poteto churros Salt or Cinnamon Sugar (มันฝรั่งชูโรส รสเกลือ หรือ น้ำตาลชินนามอน) ราคา 210 เยน
Hokkaido Soft Ice Cream ไอศกรีมจากนมฮอกไกโด ราคา 300เยน
Hokkaido Soft Ice Cream & Sweet Chocolate ไอศกรีมจากนมฮอกไกโด ราดชอคโกแลต ราคา 330 เยน
สำหรับรสชาติที่ได้ไปลองมาบอกเลยว่า ฟินค่ะ โดยเฉพาะ “Poteriko Salad” กรอบนอกนุ่มด้านใน อร่อยแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน จากที่ผ่าน ๆ มาเคยทานแบบสำเร็จที่บรรจุลงถ้วย ซึ่งมันฝรั่งแท่ง ทอดกรอบจะกรอบกรุบทั้งชิ้น แต่พอมาได้ลองแบบผลิตกันสด ๆ ทำกันใหม่ ๆ ว้าวมากจริง ๆ ค่ะ
สำหรับมันฝรั่งแผ่นทอดกรอบรสชาติลิมิเต็ดที่มีจำหน่ายที่นี่ที่เดียว รสชาติสาหร่ายโชยุ ก็อร่อยจน หยุดไม่ได้เลยจริง ๆ รสชาติกลมกล่อมกำลังดี ที่สำคัญได้รับประทานกันแบบอุ่น ๆ บอกเลยว่าเพลิดเพลินมากจริง ๆ ค่ะ
อีกหนึ่งเมนูที่ต้องร้องว้าว !!! สำหรับคนรักชีสต้องฟินสุด ๆ ชีสที่ราดลงบนมันฝรั่งนั้นเป็นชีสแบบเย็น ตอนแรกคิดว่าจะเป็นชีสแบบร้อน กำลังกังวลว่าถ้าชีสแบบร้อนจะทำให้มันฝรั่งไม่กรอบ และเวลากินชีส จะยืดย้วยเลอะเทอะเปรอะมือหรือเปล่านะ แต่ผิดคาดค่ะ เพราะชีสที่เสิร์ฟมาเป็นแบบเย็น ในส่วนของ ความกรุบกรอบของมันฝรั่งแผ่นก็ยังคงอยู่ บอกเลยค่ะว่า ฟินลืม !
ในส่วนของสินค้าที่เป็นของฝากก็มีจำหน่ายด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะสินค้าที่เป็นแบบลิมิเต็ด ที่ไม่ควรพลาดได้แก่
-Tokyo Jagariko
เป็นการรวมรสทั้ง 8 รสชาติของมันฝรั่งแท่งทอดกรอบไม่ว่าจะเป็น รสชาติ กิวด้ง (Gyudon), เมนไทโกะ (Mentaiko), พิซซ่าญี่ปุ่น (Okonomiyaki), ทาโกะยากิ (Takoyaki), ปีกไก่ (Chicken wing), ข้าวโพดหวาน (Sweet Corn), เมนไทชีสมอนจะ (Mentai Chesse Monja) และ โนะซะวะนะคอมบุ (Nozawana Konbu) ราคา 864 เยน มี 8 แพ็คตามรสชาติ เป็นสินค้าพิเศษมีจำหน่ายเฉพาะที่สถานีโตเกียวเท่านั้น
- Tokyo Kamaage Chips มันฝรั่งแผ่นทอดกรอบรสชาติซีอิ๊วญี่ปุ่นมะโระยะกะโนริ (Maroyakanori Soy Sauce) สนนราคา 700 เยน ด้านในมี 6 แพค
ในส่วนของสินค้าอื่นๆ ก็มีด้วยนะคะ น่ารักทั้งนั้นเลย
ถ้าเพื่อน ๆ มีโอกาสได้มาที่สถานีโตเกียวแนะนำเลยค่ะว่าอย่าได้พลาดเชียวนะคะ ครัวเปิดที่ทำกันสด ๆ เด็ดจริง ๆ ค่ะ!
อีกหนึ่งแบรนด์ขนมสัญชาติญี่ปุ่นระดับตำนาน เพราะถือได้ว่าเป็นแบรนด์แรก ๆ ของญี่ปุ่นที่ผลิต สินค้าขนมออกจำหน่ายมานานกว่า 120 ปี (เริ่มจำหน่ายครั้งแรกในปี ค.ศ.1899) ด้วยคอนเซ็ปต์เก๋ ๆ ที่ว่า “Angel Smile” รอยยิ้มของนางฟ้าตัวน้อย ๆ จะปรากฎทันทีที่ทุกคนได้ลองกิน Morinaga ขนมที่มีความอร่อย ที่ทางแบรนด์ต้องการส่งผ่านความรู้สึกดี ๆ ด้วยคุณภาพ “ความอร่อย ความสนุก และสุขภาพที่ดี” ไปยังผู้บริโภคนั่นเอง
สินค้าที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของเด็ก ๆ ในญี่ปุ่นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1967 นั่นก็คือ ชอคโก้บอล (Chocoball) เป็นขนมเคลือบชอคโกแลต มี 3 รสชาติที่ด้านในจะเป็น ถั่ว, คาราเมล และ สตรอเบอร์รี่
หน้ากล่องบรรจุภัณฑ์ก็จะมี โลโก้ของ Kyoro Chan มาสคอตรูปนก นอกจากนี้การตกแต่งบริเวณ ภายในร้านก็จะตกแต่งด้วย Kyoro Chan ที่ทางแบรนด์ใช้ในการสื่อสารการตลาดมาตลอดเกือบ 50 ปี จนถึงปัจจุบัน Kyoro Chan ก็เลยกลายเป็นที่จดจำของแฟน ๆ ขนม Chocoball นั่นเองค่ะ
ใครอยากซื้อกลับไปเป็นของฝากก็จัดกันได้เลยนะคะ สนนราคากล่องละ 1,080 เยน กล่องใหญ่บิ๊กเบิ้มเลยล่ะค่ะ
ภายในร้านก็ยังมีตู้กะฉะปอง เอาไว้ให้แฟน ๆ ของ Kyoro Chan ได้มากดลูกแคปซูลเป็นที่ระลึกกันด้วย
และอีกหนึ่งสินค้าที่เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ไม่แพ้กับชอคโก้บอลนั่นก็คือ ไฮชูว์ Hi-Chew เป็นลูกอมเนื้อนุ่ม (Soft Candy) ที่อมก็ได้ เคี้ยวก็ได้ เป็นสินค้าขายดีที่สุดอันดับที่ 1 ในบรรดาลูกอมเนื้อนุ่มในญี่ปุ่น
อื้อฮือ!!! ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ตั้งแต่ปี ค.ศ.1975 เป็นต้นมาทาง Morinaga ได้ผลิตไฮชูว์ ออกรสชาติที่มีมากถึง 170 รสชาติเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็นรสชาติหลัก ๆ ที่มีขายกันอยู่ในปัจจุบัน, รสชาติลิมิเต็ดเฉพาะช่วงฤดูกาล รสชาติเฉพาะภูมิภาค และ บรรจุภัณฑ์แบบพิเศษที่ใช้เป็นของฝาก ซึ่งทำให้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็นคนญี่ปุ่นเอง และรวมไปถึงคนต่างชาติด้วย
สิ่งที่เป็นลิมิเต็ด ควรค่าแก่การซื้อกลับไปเป็นของฝากนั่นก็คือ Hi-Chew รสชาติลิมิเต็ดเฉพาะภูมิภาค โดยเป็นการนำผลไม้วัตถุดิบที่มีชื่อเสียงในท้องถิ่นนั้น ๆ มาผลิตออกเป็นรสชาติของลูกอมเนื้อนุ่ม ที่มีความหลากหลายเฉพาะตัว และที่สำคัญไม่ต้องไปตระเวณเดินหาซื้อที่ไหนค่ะ เพราะที่ Tokyo Okashi Land ร้าน Morinaga ได้ทำการรวบรวมทุกรสเอาไว้ให้หมดแล้วค่ะ....
สชาติที่ได้รับความนิยมอันดับที่ 1 ได้แก่ รสเมลอน , อันดับที่ 2 รสมะม่วง, อันดับที่ 3 รสอะมะโอะ สตรอเบอร์รี่ และรสชาติอื่น ๆ มีดังนี้ค่ะ แอปเปิ้ล, เชอรี่, เลมอน, ส้มแมนดาริน, สับปะรดและ ซิตรัส ดีงามที่สุดไปเลย ใครอยากซื้อกลับไปเป็นของฝากก็สนนราคากล่องละ 650 เยน หรือกล่องที่รวมทุกรสชาติ 1,300 เยน
ถ้าจะมองหาแหล่งที่เป็น One Stop Shop ช้อปปิ้งจบ ครบในที่เดียว ขอแนะนำ Tokyo Okashi Land ดินแดนแห่งความอร่อยและของหายาก ที่ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินตระเวณหาสินค้าที่เป็นลิมิเต็ด จากหลายมุมเมือง อีกทั้งยังช้อปปิ้งสนุกและขอ Tax Free ได้ .. อย่าลืมนะคะถ้ามาโตเกียว ต้องมาที่ Tokyo Okashi Land อยู่ที่สถานีโตเกียว ทางออก Yaesu Central Exit แล้วจะพบกับขุมทรัพย์ที่คุณคู่ควร
หมายเหตุ - ข้อมูลและภาพประกอบจากการสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2560 สินค้าและร้านค้าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในเวลาต่อมา
![]() |
รวมพิกัด 3 ร้านดัง สำหรับคนรักแบรนด์เนมมือสอง @โตเกียว by JapanKookKook!!
Tokyo | view 371,797 |
![]() |
อยากซื้อของเซลล์ลดกระหน่ำที่ญี่ปุ่น ต้องไปช่วงไหน?
Tokyo | view 239,845 |
![]() |
15 สิ่งที่ต้องซื้อในซุปเปอร์มาเก็ตที่ญี่ปุ่น (ภาค2)
Tokyo | view 171,260 |
![]() |
Onitsuka Tiger ร้านใหญ่ มีทุกไซส์ ทุกสี ที่ Omotesando Hill
Tokyo | view 158,928 |
![]() |
จะซื้อรองเท้าผ้าใบต้องมาที่นี่ รวม 5 ร้านรองเท้าเด็ดๆ ที่ชิบูย่า
Tokyo | view 130,901 |