ข้อดีของการเป็นนักท่องเที่ยวก็คือ การซื้อสินค้าที่ญี่ปุ่นในร้านค้าบางแห่ง เราสามารถขอภาษีคืนได้ ซึ่งปัจจุบันอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มของประเทศญี่ปุ่นคือ 8% จะว่าไปก็เยอะอยู่เหมือนกันนะคะเนี๊ยะ แต่ข่าวดีค่ะ การซื้อสินค้าที่สถานีโตเกียวอิจิบังไก บริเวณชั้น B1 นั้นก็ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มเช่นเดียวกันค่ะ
นักช็อปตัวยงควรต้องอ่านค่ะ เพราะด้านล่างนี้ ได้แนะนำวิธีการขอภาษีคืนหรือ Tax Free ให้เพื่อน ๆ ได้ทราบกัน ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก ไปอ่านกันค่ะ
ร้านค้าที่สถานีโตเกียว อิจิบังไก สามารถขอภาษีคืนได้ แต่มีข้อสังเกตอยู่ 2 อย่างคือ
หมายความว่า ณ ร้านค้าที่มีป้ายนี้ เราต้องซื้อสินค้าภายในร้าน อย่างต่ำ 5,000 เยนขึ้นไป จึงจะสามารถขอภาษีคืนได้
จุดทำการขอคืนภาษี : ภายในร้านนั้นๆ ที่เราซื้อสินค้า
ตัวอย่างป้ายหน้าร้านค้า ดังรูปภาพด้านล่างนี้
หมายความว่า ณ ร้านค้าที่มีป้ายนี้ เราซื้อสินค้าเท่าไหร่ก็ได้ แล้วก็สามารถนำบิล ไปรวมกับบิลจากร้านที่มีป้ายพื้นหลังเป็นสีแดงเหมือนกันร้านอื่นๆ ให้ได้มูลค่าของบิลที่รวมกันแล้ว อย่างต่ำ 5,000 เยนขึ้นไป จึงจะสามารถขอภาษีคืนได้
จุดทำการขอคืนภาษี : จุดขอภาษีคืน (Tax free counter) ณ บริเวณชั้น 1 ใกล้ร้านสตาร์บัคส์
ตัวอย่างป้ายหน้าร้านค้า ดังรูปภาพด้านล่างนี้
สำหรับใครที่ตั้งใจมาช็อปปิ้ง ที่สถานีโตเกียว อิจิบังไก Ichibangai หรือ First Avenue Tokyo Station ไม่ว่าจะเป็น Character Street หรือ Okashi Land ก็สามารถขอคืน ภาษี Tax Free กับร้านค้า ที่เข้าร่วมรายการได้
สำหรับวิธีการ ก็ไม่ยากเลยค่ะ ขอให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ค่ะ
หมายเหตุ : ก่อนทำการซื้อสินค้า ให้เพื่อนๆ ไปลงทะเบียน ณ บริเวณเคาน์เตอร์ Tax Free ก่อนนะคะ การเดินไปยังเคาน์เตอร์ Tax Free ที่สะดวกและง่ายที่สุดก็คือ เมื่ออยู่ ณ บริเวณชั้น BF1 ตรงร้าน Pokemon Store ให้เดินขึ้นบันได ไปยังชั้นบนค่ะ (ชั้น 1 )
มีลูกศรและป้ายนำทางชัดเจน ตามไปได้เลย ไม่หลงแน่นอนค่ะ
จากนั้นเลี้ยวขวา เดินตรงมาผ่านหน้าร้านสตาร์บัคส์ ไปอีกนิดเดียว ก็จะเห็น เคาน์เตอร์ Tax Free อยู่ตรงด้านขวามือฝั่งเดียวกับร้านกาแฟสตาบัคส์แล้วค่ะ
สำหรับสินค้าที่จะทำการขอคืนภาษี (Tax Free) นั้นจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มสินค้าซึ่งไม่สามารถ นำยอดซื้อมารวมกันได้ โดยแบ่งกลุ่มสินค้า ดังนี้
โดยจะมีเงื่อนไขว่ายอดซื้อขั้นต่ำคือตั้งแต่ 5,000 เยน ไปจนถึงยอดซื้อสูงสุดไม่เกิน 500,000 เยน
โดยจะมีเงื่อนไขว่ายอดซื้อขั้นต่ำคือ 5,000 เยน ไป
ที่สำคัญก็คือเราต้องทำการซื้อสินค้าและขอคืนภาษีภายในวันเดียวกันค่ะ
ไปดูวิธีการขอคืนภาษี (Tax Free) ได้ตามนี้ค่ะ
1. ก่อนช็อปปิ้งต้องไปที่เคาน์เตอร์ Tax Free ที่ชั้น 1 ก่อน
2. โชว์พาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ดู แล้วจะได้รับ Tax-Free reception slip
3. ที่ร้านค้าที่มีป้าย Tax Free ที่พื้นด้านหลังเป็นสีแดง นำ Tax-Free reception slip แสดงให้พนักงานร้านค้าดู เมื่อทำการซื้อสินค้า
4. เมื่อซื้อสินค้าเสร็จแล้วนำสินค้าที่ได้ทำการช็อปปิ้ง + Tax Free reception slip + พาสปอร์ต มาแสดง ณ เคาน์เตอร์ Tax Free ที่บริเวณชั้น 1 อีกครั้ง
5. พนักงาน Tax Free จะทำการเช็ครายการสินค้าที่ซื้อมา และผู้ซื้อจะต้องเซ็นชื่อที่ LCD บนเครื่องแท็บเล็ต
6. เราจะได้รับเงินภาษีคืน เป็นเงินเยน (Japanese Yen)
7. เมื่อออกจากประเทศญี่ปุ่น ก็ทำการแสดงสินค้าที่ได้ทำการขอคืนภาษีแก่ศุลกากรในประเทศ
ช็อปปิ้งที่ญี่ปุ่น สถานีโตเกียว อิจิบังไก..ดี๊ดี ได้ทั้งสินค้าที่ชื่นชอบ และยังสามารถขอคืนภาษีได้อีกด้วย เตรียมตัว เตรียมเงินให้พร้อม จดลงลิสต์ แล้วมาตะลุยกันค่ะ one stop shop จบ ครบในที่เดียว
หมายเหตุ - ข้อมูลและภาพประกอบจากการสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2560 สินค้าและร้านค้าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในเวลาต่อมา
![]() |
รวมพิกัด 3 ร้านดัง สำหรับคนรักแบรนด์เนมมือสอง @โตเกียว by JapanKookKook!!
Tokyo | view 371,800 |
![]() |
อยากซื้อของเซลล์ลดกระหน่ำที่ญี่ปุ่น ต้องไปช่วงไหน?
Tokyo | view 239,845 |
![]() |
15 สิ่งที่ต้องซื้อในซุปเปอร์มาเก็ตที่ญี่ปุ่น (ภาค2)
Tokyo | view 171,260 |
![]() |
Onitsuka Tiger ร้านใหญ่ มีทุกไซส์ ทุกสี ที่ Omotesando Hill
Tokyo | view 158,928 |
![]() |
จะซื้อรองเท้าผ้าใบต้องมาที่นี่ รวม 5 ร้านรองเท้าเด็ดๆ ที่ชิบูย่า
Tokyo | view 130,901 |