สวัสดีจ้าชาว Japanlist วันนี้เอมีฮาวทูแต่งตาแบบง่ายๆให้เป็นสาวหวานสไตล์ญี่ปุ่นที่ดูเป็นธรรมชาติต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ มาฝากกันค่ะ แต่งตามได้ง่ายๆ สามารถปรับใช้ให้เข้ากับทุกไลฟ์สไตล์ได้ไม่ยากค่ะ
ก่อนจะถึงขั้นตอนการแต่งตานั้น เพื่อให้ได้ผิวแบบสาวญี่ปุ่น คือดูใสสุขภาพดีนั้น ขั้นตอนในการดูแลผิวและการเตรียมผิวนั้นก็สำคัญค่ะอาจจะมาส์กหน้าสัก 10-15 นาทีก่อนการลงเบสเมคอัพ เพื่อให้ผิวที่ชุ่มชื่น อิ่มน้ำและดูสุขภาพดีค่ะ
สำหรับไอเทมที่ใช้ในการแต่งตาครั้งนี้ล้วนแล้วแต่เป็นเมคอัพจากประเทศญี่ปุ่นค่ะ
สามารถหาซื้อได้ในประเทศไทยค่ะ
BRIGITTE EYESHADOW #RD
อายแชโดว์จากประเทศญี่ปุ่นมักมาในรูปของพาเลทที่เค้าจับคู่สีมาให้เราแล้ว
สามารถสวยจบในพาเลทเดียวเลยค่ะ และความวิ้งวับของอายแชโดว์ก็เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของแบรนด์จากประเทศญี่ปุ่นค่ะ
K-PALETTE REAL LASTING EYELINER 24h 1day TATTOO #BLACK
เอเลือกใช้อายไลเนอร์ที่มีลักษณ์เส้นที่คมและเล็กเพื่อความบางในการเขียนค่ะ
K-PALETTE REAL LASTING TEARS TANK 1day TATTOO #02
ถุงใต้ตาเป็นเทรนด์ที่ยังคงฮิตอยู่ในหมู่สาวๆญี่ปุ่น ตัวนี้จะช่วยทำให้ถุงใต้ตาดูสว่างขึ้นค่ะ
MAJOLICA MAJORCA LASH ENAMEL GLAMOUR VOLUME ON #BK999
มาสคาร่าสีดำ หัวแปรงเป็นหวี สามารถปัดขนใต้ให้เรียงเส้น จะช่วยให้ลุคที่ได้ดูเด็กค่ะ
มาเริ่มกันที่ขั้นตอนในการแต่งตาค่ะ
เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งในการแต่งตาแบบญี่ปุ่นค่ะ จะได้ดวงตาที่มีมิติ แต่ดูเป็นธรรมชาติแบบสาวเอเชียค่ะ
9.-10. เทรนด์ถุงใต้ตายังคงได้รับความนิยมที่ประเทศญี่ปุ่น สำหรับสาวไทยเรื่องถุงใต้ตานั้นมีอยู่แล้วแทบไม่ต้องเสริม แต่จะทำให้ดูดีและดูเด็กในสไตล์สาวญี่ปุ่นนั้นทำได้ไม่ยากค่ะ โดยการใช้ตัวช่วยอย่าง K-PALETTE REAL LASTING TEARS TANK ลงด้านที่เป็นเอสเซนท์บำรุงใต้ตาก่อนหลังจากนั้นตามการลงชิมเมอร์บริเวณถุงใต้ตาค่ะ
เพิ่มความเป็นธรรมชาติของลุคด้วยการปัดแก้มด้วยบรัชออนสีโทนชมพูค่ะ และตามสไตล์สาวญี่ปุ่นทาลิปสติกสีชมพูอ่อนและตามด้วยการทาลิปกลอสให้ทั่วริมฝีปากค่ะ ให้ได้ปากที่ดูวาวๆฉ่ำๆจ้า
และสำหรับสาวนัยน์ตาสีเข้มแบบเอ ลดความดุของดวงตาด้วยการเลือกใส่คอนแทคเลนส์สีชมพูอมน้ำตาลค่ะ เพื่อให้ดูเป็นสาวหวาน สดใสมากขึ้นค่ะ
เท่านี้ก็เสร็จแล้วค่ะการแต่งตาให้ดูเป็นธรรมชาติแบบสาวญี่ปุ่น
ขอบคุณทุกคนมากนะคะที่ติดตามอ่านฮาวทูของเอจนจบครั้งหน้าเอจะมีฮาวทูอะไรอีก อย่าลืมติดตามกันได้ที่นี่นะคะ
หรือ ติดตามเอได้ที่ https://www.facebook.com/aebonglife