Onitsuka Tiger ร้านใหญ่ มีทุกไซส์ ทุกสี ที่ Omotesando Hill

มีคนถามกันมามากมายว่าแอดจ๊ะ แอดจ๋า เค้าอยากไปหาซื้อรองเท้าเสือโฮกๆ อ่ะ จะไปหาซื้อที่ไหนดีอ่ะก๊ะ เพราะว่าบางทีเค้าไปสาขาเล็กๆ น้อยๆ ของมีให้เลือกแบบกระจิริดกระจ้อยร่อยมากๆ อ่ะค่ะแอด

ถามถูกคนแล้วจ้ะน้องจ๋า เรื่องการละลายเงินไปกับรองเท้านี่แอดดาวก็ไม่เป็นสองรองใครนะก๊ะ ที่บ้านแอดถ้าโจรขึ้นนี่ถึงกับต้องนั่งร้องไห้กันทีเดียว คือแอดไม่มีสมบัติมีค่าอะไรเลยนอกจากรองเท้านี่แหละ มีเงินเท่าไหร่ก็ถมซื้อรองเท้าไปหมด แม่ถามว่าเป็นคนหรือว่ากิ้งกือห๊ะ เท้าก็มีแค่สองเท้า โหย....แม่อ่ะ แม่ไม่เข้าใจวัยรุ่นอ่ะ โกรธแม่แล้ว = =!

ดังนั้น หลังจากที่งอนแม่เสร็จแล้ว ตามแอดมาเลยค่ะ ร้านนี้ ของครบ ของไม่ขาด ไม่ต้องเหนื่อยใจตามหา ร้านที่แอดจะพาไปวันนี้ ท๊าด๊าห์....Onitsuka Tiger ร้านแบบ Stand alone ที่โอโมเตะซันโดะ ฮิลล์ค่ะ (Omotasando Hill)  ร้านนี้หาไม่ยาก เพียงแค่นั่ง Tokyo Metro มาลงที่สถานี Meiji-Jingumae Harajuku Station แล้วออก Exit 5 ตามในภาพเลยค่ะพอออกมาปุ๊บ จะเจอกับปากซอยแบบนี้นะคะ ตึกด้านขวาเขียนว่า Omotesando Hill มองตรงไปในซอยก็เห็นร้านอยู่รำไรแล้วค่ะ หาง่ายมาก ไม่หลงแน่นอนเดินเข้ามาประมาณ 200 เมตร ก็ถึงแล้วค่ะ ร้านสีดำ เท่ๆ มีป้ายร้านชัดเจน เข้าไปสำรวจกันเลยว่ามีอะไรบ้างนะคะ

รองเท้ายี่ห้อนี้มีเอกลักษณ์ของตัวมันเอง เป็นยี่ห้อที่คนไทยนิยมซื้อกันมาก หากได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่น สาเหตุหลักๆ ก็ไม่มีอะไรมาก เพราะว่าที่เมืองไทยมันแพงนั่นเองค่ะ ฮ่าๆๆ ก็ถ้าที่เมืองไทยคู่ละ 3 พันกว่าบาท เวลาซื้อที่นี่คู่นึงก็ประมาณ 2 พันกว่าบาท นี่เป็นการยกตัวอย่างนะคะ ราคามันก็แตกต่างกันประมาณนี้ค่ะ

ส่วนตัวแอดคิดว่ารองเท้ายี่ห้อนี้ดีตรงที่มันเบาอ่ะ ใส่แล้วสบายเท้า ไม่กัด เดินเบาๆ เหมือนไม่ใส่รองเท้า อ้าว...แล้วมันดีเหรอแอด แอดว่าอันนี้แล้วแต่คนชอบนะคะ เพราะว่าพื้นรองเท้าของโอนิสึกะนี่ค่อนข้างบาง ซึ่งบางคนไม่ชอบ บอกว่าเดินแล้วไม่นุ่มเท้า อันนี้ก็แล้วแต่คนเลยจร้า

นี่คือภาพภายในร้าน มีน้องพนักงานผู้ชายตัวสูงๆ ที่ใส่แว่นคนนั้นเป็นคนญี่ปุ่นแต่พูดไทยได้ ถามนางว่า ทำไมพูดไทยได้คะ นางตอบว่าผมเรียนจากลูกค้า ร้านเรามีลูกค้าคนไทยมาทุกวัน เค้าก็สอนผม ผมก็จำไว้ใช้ครับ หูย...เก่งอ่ะ แอดเลยทดสอบสกิลภาษาไทย โดยการถามน้องเค้าไปว่า

แอดดาว : "เคยไปเมืองไทยมั้ยคะ"น้องแว่น ตอบกลับมาทันทีว่า :  "ครับ ผมชอบกินกะเพราไก่มากครับ"

แอดดาวยิ้มอ่อนเลยจ้ะ...โอเคจ้ะ พ่อหนุ่มน้อย ชัดเลย เราคุยคนละเรื่องเดียวกันใช่มั้ยจ๊ะ 5555+ฮิตกันมาก แต่เพื่อนๆ เคยทราบประวัติของรองเท้าโอนิสึกะไทเกอร์มั้ยคะ ว่ามีความเป็นมาอย่างไร แอดจะเล่าให้ฟังน๊า เรื่องก็คือ เมื่อปี 1949 (66 ปีที่แล้ว) คุณคะฮิชิโร่ โอนิสึกะ ได้ก่อตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อจะผลิตรองเท้าที่ทำให้วัยรุ่นและเยาวชนอยากใส่ แล้วหันกลับมาสนใจในการเล่นกีฬากันมากขึ้น รองเท้าชนิดแรกที่ผลิตออกมาคือรองเท้าบาสเกตบอล และต่อมาได้พัฒนารูปแบบไปเรื่อยๆ จนมาลงตัวอยู่ที่การทำรองเท้าให้ใส่แล้วเดินสบาย คำนึงถึงสุขภาพเท้ามากขึ้น ต่อยอดด้วยการพัฒนาและปรับปรุงรูปแบบจนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบในปัจจุบันรองเท้าโอนิสึกะนั้น มีทั้งแบบที่ผลิตจากประเทศต่างๆ และแบบที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีคำเรียกเฉพาะว่า Nippon Made ซึ่งราคาของทั้งสองแบบก็จะแตกต่างกัน โดยรองเท้าที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่นนั้นจะมีราคาแพงกว่ารองเท้าที่ผลิตจากประเทศอื่นๆ เกือบสองเท่า ซึ่งที่สาขานี้ก็มีรองเท้าทั้งสองแบบให้เลือกซื้อ คือส่วนของชั้นล่างจะเป็นรองเท้าที่ผลิตมาจากหลายๆ ประเทศ ส่วนบริเวณชั้น 2 ก็จะเป็นรองเท้า Nippon Made ทั้งชั้นค่ะ

แต่แอดไม่ได้ขึ้นไปชั้น 2 นะคะ แค่ชั้น 1 นี่ก็พ่ายแพ้แล้วค่ะ โดนสิคะ รออะไร รูดบัตรกันปรื๊ดๆ 555+

สินค้าภายในร้านก็ไม่ได้มีแต่รองเท้าแค่เพียงอย่างเดียวนะคะ มีทั้งเสื้อผ้า หมวก กระเป๋าด้วยเช่นกัน แบบน่ารักๆ ที่เป็นผ้าใบแล้วมีส้นนี่ก็น่ารักมากๆ เลยค่ะ

คราวล่าสุดนี่แอดดาวไปกับแอดโซระ และคุณแม่ของแอดโซระ ตอนแรกไม่มีใครคิดจะซื้อนะคะ ยิ่งแอดดาวนี่ยิ่งไม่คิด เพราะว่าคู่เก่ายังไม่ได้จ่ายบัตรเครดิตเลยคร้า เอาจริงๆ แต่ที่เข้ามาในร้านเพราะว่ามีเพื่อนฝากซื้อ และข่าวดีค่ะ สิ่งที่เพื่อนต้องการ ไม่มีของค่ะ จากนั้นยังไงคะ สนุกสิคะ มีรุ่นใหม่มาด้วยแหละ ไหนๆ ดูสิๆ แล้วทุกคนก็ตกเป็นเหยื่อทางการตลาดค่ะ โดยเฉพาะคุณแม่ แม่บอกว่าเค้าบริการดีอย่างนี้ เราไม่ซื้อไม่ได้แล้วนะ ห๊า...แม่ว่าไงว่าตามกันค่ะ เฮ้!

แต่จริงๆ นะคะ ทุกคนประทับใจในบริการของพนักงานในร้านมาก คือน้องชายคนนี้หน้าตาดีมาก เอ้ย..ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่ น้องบริการดีมาก เราขอลองรองเท้าไป 2-3 ไซส์ ก็หามาให้ลองอย่างขะมักเขม้น พยายามพูดภาษาไทยกับเรา ถามไซส์อะไรเป็นภาษาไทยหมด แถมตอนที่คุณแม่ลองรองเท้า ก้มลงไปใส่ไม่สะดวก ลูกสาวยังไม่ทันขยับตัว น้องพนักงานมาก้มมาใส่รองเท้าให้คุณแม่ด้วยความรวดเร็ว น่ารักมากๆ ค่ะ และตอนออกจากร้าน ก็โค้งแล้วโค้งอีก นี่สินะ อีกหนึ่งการบริการมาตรฐานของคนญี่ปุ่นที่ซื้อใจลูกค้าได้

แสดงพาสปอร์ตได้ลด 5% ด้วยนะคะ ดีงามมากๆ (โปรโมชั่นเหล่านี้จะแตกต่างกันไปนะคะ)

พิกัดร้านที่อยู่ร้าน 4-24-14, Jingumae, Shibuya-ku, Tokyo

เวลาเปิด-ปิด : 11:00-20:00 น.

เบอร์โทรศัพท์ : 03-3405-6671

เว็บไซต์ : Onitsuka Tiger

ใครรักรองเท้ายี่ห้อนี้เหมือนกัน ตามมาพังกันได้ที่สาขานี้นะคะ บอกด้วยนะว่ามาจากเพจกรูรู ...แต่.....เค้าไม่รู้จักหรอก ห๊าาาาา 555+

แอดมินดาว

เรื่องโดย : Japanกุ๊กกุ๊ก