Nara เป็นจังหวัดในภูมิภาค Kansai ที่มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัด Mie, Wakayama, Shiga, Osaka และ Kyoto ราวปี ค.ศ. 710 ยุคโบราณเมื่อยังคงรุ่งเรือง พื้นที่ตั้งของจังหวัด Nara ถูกเลือกให้เป็นเมืองหลวงแบบถาวรเป็นครั้งแรกในญี่ปุ่น อาจจะมีชื่อเรียกว่า Asuka-kyo บ้างหรือ Fujiwara-kyo หรือ Heijo-Kyo บ้าง แต่ทั้งหมดล้วนหมายถึงเมือง Nara ทั้งสิ้น Nara ดำรงความเป็นเป็นเมืองหลวงอยู่ได้ราว 74 ปี องค์จักรพรรดิ์ Kanmu จึงได้ย้ายเมืองหลวงไปยัง Heian-kyo หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ จังหวัด Kyoto ในปัจจุบัน
เมืองเอกของจังหวัด Nara ก็ชื่อว่า Nara นั่นแหละ เป็นเมืองมรดกโลกที่มีสถาปัตยกรรมโบราณกระจุกตัวกันอยู่ในเขตอุทยานประวัติศาสตร์ โดยที่นี่ได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกในปี ค.ศ. 1998 สถาปัตกรรมที่ขึ้นทะเบียนมรดกโลกส่วนใหญ่เป็นวัดและศาลเจ้า โดยเฉพาะวัดพุทธที่แสดงให้เห็นถึงความเลื่อมใสศรัทธาขององค์จักรพรรดิ์จึงทำให้เกิดสิ่งก่อสร้างต่างๆที่สะท้อนภาพความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาในประเทศญี่ปุ่นในยุค Nara ได้อย่างชัดเจน
สำหรับการเดินทางมา Nara ถ้าเริ่มต้นจาก Kyoto ให้ขึ้นรถไฟ Rapid สาย Miyakoji จากสถานี Kyoto มายังสถานี JR Nara ใช้เวลาเดินทางราว 45 นาทีโดยค่าโดยสารเที่ยวเดียวมีราคา 710 เยน แต่ถ้าถือ JR Pass ก็ขึ้นรถไฟไปได้เลยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เมื่อเดินทางถึงสถานี JR Nara แล้วก็เดินตรงไปตามถนน Sanjo Dori เดินชมบรรยากาศร้านรวงผู้คน ศาลเจ้าข้างทาง ก่อนก็ได้
เดินไปซักสิบยี่สิบนาทีนี่แหละเราก็จะเริ่มเข้าเขตอุทยานประวัติศาสตร์ของ Nara โดยเราจะพบวัด Kofukuji เป็นวัดแรก ถ้าไม่ได้เดินทะลุทะลวงไปไหนซะก่อน Kofukuji เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในเมือง Yamashina (หรือ Kyoto ในปัจจุบัน) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 669 จนกระทั่งปีสามปีให้หลัง จึงได้ถูกย้ายมายัง Nara จนกระทั่งปัจจุบัน โดยมีสถาปัตยกรรมสำคัญคือศาลารูปแปดเหลี่ยมที่อยู่ทางทิศใต้
ศาลาทองคำและเจดีย์ไม้ห้าชั้นที่อยู่ทางด้านทิศตะวันออก ขณะที่ศาลาทองคำหลังใหญ่ยังอยู่ในระหว่างการซ่อมแซม (ชื่อศาลาทองคำแต่ก็สร้างด้วยไม่ล้วนๆ ไม่มีเคลือบทองเหมือนวัด Kinkakuji ใน Kyoto ครับ)
จริงๆแล้วการเดินทางในเขตอุทยานประวัติศาสตร์เป็นเรื่องค่อนข้างสะดวกเพราะมี loop bus เอาไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวด้วยถ้าเดินเมื่อย
เมื่อเราออกจาก วัด Kofukuji เดินไปไม่ไกลนัก เราจะเจอศาลเจ้าขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ เป็นศาลเจ้าในลัทธิ Shinto ที่เรียกว่า Himuro jinja - ศาลเจ้าน้ำแข็ง คาดว่าน่าจะเริ่มก่อตั้งราวคริวตศตวรรษที่ 8 เคยใช้เป็นที่ประกอบพิธ๊กรรมสำคัญให้กับเหล่าโชกุนในยุคของตระกูล Tokugawa เรืองอำนาจและนอกจากนี้ยังเคยเป็นที่จัดแสดงศิลปะการร่ายรำชั้นสูงอย่าง Bugaku และแสดงดนตรีญี่ปุ่นที่เรียกว่า Gagaku ที่ได้เห็นกันในราชสำนักเท่านั้น
ที่ฝั่งตรงกันข้ามของศาลเจ้าน้ำแข็ง เป็นที่ตั้งของ Nara National Museum ถือเป็นพิพิธภัณฑ์สถานสำคัญเลยทีเดียวเพราะเป็นที่เก็บรวบรวมงานพุทธศิลป์ทั้งภาพวาดและรูปปั้นโบนราณรที่มีความเกี่ยวข้องสำคัญต่อศาสนาพุทธในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
ต้องขอหยุดพักกันที่ Nara National Museum ก่อน ในตอนหน้าเราจะยังพาท่านบุกเดินทางต่อไปยังวัดและศาลเจ้าสำคัญที่นับได้ว่าเป็นหัวใจของเมือง Nara แห่งนี้โปรดติดตามครับ
![]() |
วันเดียวเที่ยว Nara: สัมผัสสถาปัตยกรรมเก่าแก่กว่าพันปี (ตอนที่ 2)
Nara | view 23,425 |
![]() |
ใครอยากเจอกวางเป็นฝูงๆ ห้ามพลาด "Nara Park" สวนแห่งกวาง!
Nara | view 9,292 |
![]() |
นารามะจิ ความสนุกสองสมัย (ลงตัวพอดี๊...พอดี)
Nara | view 8,085 |
![]() |
นารา Dream land สวนสนุกร้างมีคนซื้อต่อแล้วนะ!!!
Nara | view 1,716 |
![]() |
"ผมไม่ได้โกงข้อสอบ!" ข้อความหลังกระดาษคำตอบที่นักเรียนชั้นม.4 เขียนไว้ก่อนกระโดดตึกเสียชีวิต!
Nara | view 1,104 |