นอกจาก Chinatown ที่มีอาหารรสเลิศหรือจะสวนสันติภาพที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นรอยจารึกหน้าสำคัญในประวัติศาสตร์ของ Nagasaki ที่นี่ยังมีวัดเล็กๆอีกวัดหนึ่งที่ควรค่าแก่การเข้าเยี่ยมเพื่อนมัสการพระพุทธรูปและขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่วัด Kofuku-ji
ว่ากันตามจริงวัด Kofuku-ji น่าจะมีคนเข้าเยี่ยมชมน้อยกว่าวัด Sofuku-ji (ซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน) ที่มีชื่อเสียงมากกว่า แต่ตามความสำคัญทางประวัติศาสตร์แล้ว ต้องถือได้ว่าวัด Kofuku-ji เป็นวัดจีนที่เก่าแก่ที่สุดใน Nagasaki สร้างขึ้นราวปีค.ศ. 1620 โดยคณะพ่อค้าชาวจีนที่มาจากลุ่มน้ำแยงซีเกียง โดยเริ่มแรกเป็นเพียงศาลเจ้าที่บูชาเทพเจ้าทางทะเลที่มีนามว่า Mazu Maso ก่อน จากนั้นในปีค.ศ. 1623 จึงได้ขยับขยายมาเป็นวัด Kofuku-ji และเพื่อเป็นการแสดงตัวตนว่าชาวจีนที่มาทำการค้าขายกับชาวญี่ปุ่นไม่ได้เป็นพวกนับถือศาสนาคริสต์เหมือนกับพวกยุโรปที่เข้ามาใน Nagasaki (เพราะญี่ปุ่นสมัยนั้นประกาศห้ามนับถือศาสนาคริสต์)
การเดินทางมาที่วัดคงจะต้องนั่งรถรางสาย 3 (จากสถานี Nagasaki) หรือสาย 4 และสาย 5 (ถ้าแวะไปที่อื่นมาก่อน) มาลงที่สถานี Kokaido-mae แล้วลงเดินต่ออีกราว 10 นาทีก็จะถึงวัด
เดินมาถึงหน้าวัด เราก็จะพบกับประตู Sanmon ซึ่งเป็นประตูไม้เก่าแก่ที่ยืนยงมากว่าสามร้อยปี เดิมทีประตูนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1654 ตามสถาปัตยกรรมจีน แต่อีกเก้าปีต่อมาถูกทำลายจากอัคคีภัย และเมื่อปีค.ศ. 1670 ประตูที่เห็นในปัจจุบันจึงถูกสร้างขึ้นใหม่เป็นสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นแทน
เมื่อเดินผ่านประตู Sanmon เข้าไปด้านในจะพบกับศาลา Daio Hoden ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานขององค์พระศากยมุนี ที่ชาวจีนเรียกกันว่า Daio และชาวญี่ปุ่นเรียกว่า Shaka Nyorai ศาลาแห่งนี้สร้างขึ้นครั้งแรกปีค.ศ. 1632 และถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ 1689, 1863 และ 1883 ตามลำดับเนื่องจากไฟใหม้ ตัวศาลาสร้างขึ้นด้วยไม้และซุงที่ขนกันมาจากเมืองจีนและยังคงสถาปัตยกรรมแบบจีนไว้ (เราสามารถยืนขอพรพระได้ที่ด้านหน้าศาลา แต่ห้ามถ่ายรูปเข้าไปด้านในศาลา - ที่นี่มีป้ายห้ามไว้ชัดเจนครับ)
ถัดจากศาลา Daio Hoden ไปจะเป็นประตูนำเข้าไปสู่สวนจีนเล็กๆ ประตูไม้นี่เองที่เป็นความร่วมมือร่วมใจของพ่อค้าชาวจีนสามมณฑลที่ประกอบไปด้วย เจียงหนาน เจ้อเจียงและเจียงซีร่วมกันสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นประตูไปสู่อาคารที่ตั้งป้ายบูชาบรรพบุรุษและเป็นอาคารที่พักด้วยในคราวเดียว ปัจจุบันอาคารดังกล่าวถูกทำลายจากระเบิดปรมาณูที่ทิ้งลงมาในสงครามโลกครั้งที่สองและพื้นที่ดังกล่าวก็ได้ปรับปรุงเป็นสวนจีนที่เห็นในปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังมีหอระฆังโบราณที่ปัจจุบันไม่หลงเหลือความเป็นสถาปัตยกรรมจีนให้เห็นเพราะวัสดุที่เป็นส่วนประกอบของหอระฆังเดิมได้บริจาคไปใช้ทำอาวุธในช่วงสงครามหมดสิ้น หอระฆังในปัจจุบันจึงออกมาเป็นสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นแบบเต็มๆ
ทางด้านหลังหอระฆังมีศาลเจ้าเล็กๆอยู่หลังหนึ่ง มี Ema หรือแผ่นเขียนคำอธิษฐาน เป็นรูปหัวใจ ล่อลวงคนหนุ่มสาวให้มาขอพรให้สมหวังเรื่องความรักแหงๆ
จริงๆแล้วมีอีกสถานที่หนึ่งที่เกี่ยวข้องกับวัด Kofuku-ji เล็กน้อยนั้นคือสะพานแว่นตา Megane Bashi สะพานที่เป็นเครื่องหมายการค้าสำคัญแห่งหนึ่งของ Nagasaki เช่นกัน สะพาน Megane Bashi ที่ทอดข้ามแม่น้ำ Nagashima น่าจะถูกสร้างขึ้นราวๆปี ค.ศ. 1632 จากดำริของเจ้าอาวาสรุ่นที่สองของวัดนามว่า Mokuso Nyojo เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางมายังวัด Kofuku-ji จะได้ไม่ต้องนั่งเรือข้ามฟากกันอีกต่อไป ในปัจจุบันที่การเดินทางสะดวกขึ้นมาก สะพานแว่นตาที่มีเอกลักษณ์แห่งนี้จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวแวะเวียนมาชมทัศนียภาพและสถาปัตยกรรมที่งดงาม
วัด Kofuku-ji เปิดทำการทุกวันตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงห้าโมงเย็นไม่มีวันหยุด ค่าเข้าชมท่านละ 300 เยน วัดเก่าแก่แห่งนี้ยังรอคอยให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมอยู่เสมอ และสำหรับวันนี้ ข้าพเจ้าพึงขอจบการบรรยายห้วข้อประวัติศาสตร์ศิลปวัฒนธรรมตะวันออกเอาไว้เพียงเท่านี้
เรื่องและรูปภาพโดย : FB-From the outside in ติดตามเรื่องราวท่องเที่ยวพร้อมภาพสวยๆ ได้ที่เพจเลยนะครับ
![]() |
ไม่เคยเห็นห้องน้ำที่ไหนหลอนขนาดนี้มาก่อน!! ใจไม่ถึง อย่ามา Thriller City ที่ Huis Ten Bosch
Nagasaki | view 18,250 |
![]() |
พามาเยือนเกาะคิวชู (1) : นางาซากิ เมืองประวัติศาสตร์ ผสานวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตก ตอน 1
Nagasaki | view 13,307 |
![]() |
พามาเยือนเกาะคิวชู (2) : นางาซากิ เมืองประวัติศาสตร์ ผสานวัฒนธรรมออกตก ภาคสอง เจาะร้านอาหาร
Nagasaki | view 13,198 |
![]() |
พามาเยือนเกาะคิวชู (3) : ซาเซโบ (นางาซากิ) ทิวทัศน์สวยงามของหมู่เกาะทั้ง 99
Nagasaki | view 11,321 |
![]() |
Nagasaki เถ้าธุลีที่มอดไหม้จากไฟสงคราม
Nagasaki | view 11,262 |