วันเดียว เที่ยวเพลิน ที่ Kamakura ใกล้โตเกียวแค่นี้เอง!

Kamakura เคยเป็นเมืองหลวงริมทะเลที่เก่าแก่ของญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ. 1735 และเป็นเมืองหลวงมายาวนานถึง 141 ปีเลยนะ

ถึงแม้ว่าปัจจุบัน Kamakura จะเป็นแค่เมืองเล็กๆ ไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากมาย แต่กลับเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยว ทั้งวัด ศาลเจ้า แล้วก็แหล่งร้านค้าต่างๆ มากมาย รอให้นักท่องเที่ยวได้ไปชื่นชมและละลายทรัพย์กันค่ะ

Kamakura อยู่ห่างจาก Tokyo ไม่ถึง 100 กิโลเมตร เดินทางไปได้ง่ายๆ ด้วยรถไฟ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แถมยังมีรถไฟที่ให้บริการไปที่นี่ตั้งหลายสาย สะดวกสบาย … ไปกันเลย

รถไฟสายต่างๆที่สามารถเดินทางไปที่ Kamakura ได้

วันนี้อยากจะแนะนำวิธีการเดินทางไปKamakura จากสถานี Shinjuku แบบง่ายๆ และได้เที่ยวหลายๆที่ ตั๋วรถไฟ Enoshima – Kamakura Freepass บอง Odakyu Railways เพราะเป็นตั๋วรถไฟแบบเหมาจ่าย ขึ้น - ลง ได้ทุกสถานี ตลอดเส้นทาง จาก Tokyo จนถึง Kamakura

ตั๋วเหมาจ่าย Enoshima – Kamakura Freepass ของ Odakyu Railways ราคา 1,470 เยน ซื้อได้ที่ ศูนย์ Odakyu Sightseeing Center ชั้น Ground Floor ของสถานี Shinjuku ซื้อแล้วเราจะได้ตั๋วพร้อมกับแผ่นพับแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ตามสถานีต่างๆระหว่างทาง และแผนที่ ได้ตั๋วแล้ว ก็ไปกันเลยได้ค่ะ

โดยเริ่มสถานี Shinjuku ใช้รถไฟสาย Odakyu ไปลงที่ สถานี Enoshima และใช้รถไฟสาย Enoden  ซึ่งไปรถไฟในเมือง Kamakura

และเพื่อเป็นศิริมงคลแก่การเดินทาง เราจะเริ่มต้นด้วยการไปไหว้ศาลเจ้า Hachimangu กันก่อน เรานั่งรถไฟสาย Enoden ยาวๆ ไปลงที่สถานี Kamakura ได้เลย

แต่เดี๋ยวก่อน !!! ก่อนที่จะเดินไปถึงศาลเจ้า Hachimangu ได้นั้น เหล่าบรรดานักช็อป ทั้งหลายจะต้องเดินผ่านถนนสายช็อปปิ้ง ที่แสนจะยาวววว … ที่อยู่ระหว่างทางจากสถานี Kamakura ไปจนถึงศาลเจ้านี้ให้ได้สะก่อน บอกเลยว่า ใจไม่แข็งพอ มีสิทธิ์ล้มละลาย !!!

ออกจากสถานี Kamakura มาเดินมาตามเสา Torii อันใหญ่ อันนี้มาได้เลยไม่หลงแน่นอน และ ขอต้อนรับสู่ ถนนละลายทรัพย์ค่ะ

ร้านรวงมากมาย พร้อมจะดึงดูดให้เราเข้าไป ได้ทุกเมื่อ

Soft cream รสงาดำ อันนี้ต้องยอม หน้าตาไม่สวยงาม แต่รสชาติหอมหวาน ละมุนมาก โรยด้วยงาบด เพิ่มความหอมมันเข้าไปอีก เรียกว่า อร่อย ยอม ตาย!!!

ตลอดความยาวหลายกิโลเมตรของถนนเส้นนี้ มีให้ซื้อทุกอย่าง ทั้งของฝาก ของกิน ของหวาน ของคาว เรียกว่า กว่าจะเอาชีวิตรอดออกมาได้ แทบหมดตัว

แล้วเราก็เดินมาถึงจนได้ ศาลเจ้า Hachimangu ศาลเจ้าที่สำคัญของเมือง Kamakura ซึ่งในทุกๆวัน จะมีคนมากมายทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติมาทำพิธีต่างๆที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น พิธิฉลองอายุครบ 3-5-7 ปีของเด็กชายเด็กหญิง พิธีแต่งงาน วันปีใหม่ ถ้าโชคดีเราอาจจะได้มีโอกาสชมพิธีแต่งงานแบบญี่ปุ่นที่นี่ด้วยนะคะ

เสา Torii สีแดงมากมาย วางซ้อนไปซ้อนมา อยู่ทางด้านหลังของศาลเจ้า ดูแล้ว งง ดีเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเริ่มต้นจากฝั่งไหน และไปจบที่ฝั่งไหน

เนื่องจากแทบจะหมดตัวจากขามา ขากลับเลยเดินผ่านมาทางถนนอีกฝั่งนึงของศาลเจ้า ก็จะได้เห็นเสา Torii อีกเสานึงตั้งอยู่

จากสถานี Kamakura เรานั่งรถไฟสาย Enoden ย้อนกลับมาทางเดิม เพื่อไปลงสถานี Hase และเดินต่อไปวัด Hasedera และ ไปไหว้พระใหญ่ Daibutsu หรือจะเรียกว่า หลวงพ่อโตแห่ง Kamakura ก็ได้นะ

และอีกเช่นเคย กว่าจะได้ไปถึงทั้ง 2 ที่ เราก็ต้องเกินผ่านแหล่งช็อปปิ้งอีกเช่นกัน บอกเลยว่ามาแถวนี้ต้องฝึกจิตใจให้เข้มแข็ง ไม่งั้นกระเป๋าสตางค์ฉีกแน่นอน

ถ้าจิตใจเข้มแข็งพอ ไม่ซื้ออะไรมากมาย แค่ได้เดินชมนก ชมไม้ ชมตึก แถวนี้ก็คุ้มแล้ว

เดินยังไม่ทันเหนื่อยมาก เราก็มาถึงวัด Hasedera แล้ว วัดนี้มีชื่อเต็มๆว่า Kaikosan Jishoin Hase-dera เป็นอีกวัดนึงที่มีชื่อเสียงมากของ Kamakura มีจุดเด่นที่ รูปแกะสลักไม้เจ้าแม่กวนอิม ด้านหลังของวัดมีวิวที่มองเห็นเมืองและอ่าวEnoshima และรูปสลัก Jizo มากมายที่วางเรียงกันอยู่ด้านหลังของวัด

Jizo เแปลตรง ๆ ว่า “ผู้พิทักษ์แห่งผืนดิน” เราจะเห็น รูปสลัก Jizo แบบนี้อยู่ทั่วไปในญี่ปุ่น เพราะตามความเชื่อของคนญี่ปุ่น เชื่อกันว่าสามารถช่วงปกป้องคุ้มครองนักเดินทาง นักท่องเที่ยว และเด็กๆ ให้อยู่รอดปลอดภัย เพราะฉะนั้นเวลาไปเที่ยวแล้วเจอ Jizo ที่ไหนอย่าลืมแวะทำความเคารพเค้าหน่อยนะคะ

จากวัด Hasedara เราก็เดินกันต่อ เพื่อไปไหว้หลวงพ่อโตแห่ง Kamakura ที่วัด Kotokuin กันค่ะ

พระใหญ่ที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า Daibutsu องค์นี้หล่อขึ้นมาจากสัมฤทธิ์ หรือ Bronze  มีอายุมากกว่า 750ปี มีความสูง 13.35 เมตร ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่นรองจากที่ Nara

ก่อนกลับ Tokyo แนะนำให้แวะสถานี Enoshima ซึ่งเป็นสถานีริมทะเล แล้วเดินข้ามสะพาน ข้ามน้ำข้ามทะเล ไปยังเกาะ Enoshima ที่มีสถานที่เที่ยวหลายที่ หรือ จะแค่ไปนั่งชมพระอาทิตย์ตกดิน ที่ชายหาดก็สวยงามมากพอแล้วค่ะ

นก(เหล็ก)ใส่ชุดไหมพรม น่ารักๆ ที่ทางออกของสถานี

เดินข้ามสะพานไป ก็จะเจอกับชายหาดของเกาะ Enoshima ที่มีทั้งชาวญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยงมากมาย มาเล่นน้ำทะเล นั่งChill out  หรือมารอชมพระอาทิตย์ตกดิน คึกคักมากๆ

หลังจากเดินเที่ยวกันอย่างสนุกสนาน เหน็ดเหนื่อย ก็ได้เวลากลับ Tokyo กันแล้ว ด้วยรถไฟสาย Odakyu จากสถานี Enoshima ไปที่สถานี Shinjuku ที่เราจากมาตอนเช้าได้เลย

เป็นยังไงบ้างคะสำหรับทริปสั้นๆ ใช้เวลาแค่ 1 วันแบบนี้ ไปเที่ยว Tokyo คราวหน้า หวังว่าทุกคนจะลองไปเที่ยว Kamakura กันดูนะคะ

แล้วเราไปเที่ยวกันอีกนะคะ

#travelholic