การเที่ยววัดและศาลเจ้าในประเทศญี่ปุ่นก็เป็นอีกหนึ่งแบบของการท่องเที่ยวที่ทำให้เข้าใจวัฒนธรรมและความเชื่อของผู้คนในประเทศนี้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจังหวัดยามานาชิเป็นจังหวัดที่มีวัดและศาลเจ้าที่น่าสนใจมากมาย และอีกหนึ่งวัดที่แอดคิดว่าเป็นวัดธรรมดา แต่ที่ไหนได้ มีเรื่องสนุกๆ ซ่อนตัวอยู่ในวัด ไม่มาไม่รู้จริงๆ นะคะ วัดนี้มีชื่อว่า “วัดไคเซ็นโคจิ”(甲斐善光寺)ที่จังหวัด ยามานาชิค่ะ
วัดไคเซ็นโคจินี้เป็นวัดนิกายโจโด ต้นแบบของวัดนี้คือวัดที่จังหวัดนากาโนะ และที่วัดนี้มีเรื่องเล่าด้วยนะคะ ว่ากันว่าสาเหตุที่วัดนี้ถูกสร้างขึ้นมาก็เพราะครั้งหนึ่งในอดีต บุตรสาวของท่านโชกุนจากเมืองนากาโนะ ได้ตกลงแต่งงานกับชายหนุ่มที่จังหวัดยามานาชิ และเมื่อแต่งงานแล้วก็ต้องย้ายมาอยู่ที่จังหวัดยามานาชินี้ ด้วยความที่ท่านโชกุนเป็นห่วงและกลัวว่าบุตรสาวของตนจะโศกเศร้าจากการที่ต้องห่างจากบ้านเกิดเมืองนอน ท่านโชกุนจึงได้สร้างวัดที่มีหน้าตาเหมือนกันกับวัดที่จังหวัดนากาโนะ ซึ่งก็คือวัดไคเซ็นโคจินี้นั่นเองค่ะ
เมื่อเดินเข้ามาในวัดจะพบว่าทางด้านซ้ายมือจะเป็นสวนญี่ปุ่นมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่อยู่ในสวนและมีการวางจิโซะเอาไว้จำนวนมาก (Jizo) จิโซะนี้ก็คือตุ๊กตาหินตัวเล็กๆ หน้าตาเหมือนเด็ก ตุ๊กตาจิโซะเหล่านี้มีที่มาจากผู้ปกครองของเด็กที่มีลูกหลานที่เสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย จะเป็นคนนำจิโซะมาไว้ที่วัดหรือตามสถานที่ต่างๆ ด้วยความเชื่อที่ว่าเด็กที่เสียชีวิตตั้งแต่อายุน้อยๆ นั้น ยังไม่สามารถไปสู่สุขคติได้ เนื่องจากมีเวลาเพียงน้อยนิดที่ดำรงชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ จิโซะจึงทำหน้าที่ดูแลและปกป้องดวงวิญญาณน้อยๆ เหล่านั้นให้ปลอดภัยจากปีศาจร้ายทั้งหลายทั้งปวง ถ้าเป็นช่วงฤดูหนาวก็จะเห็นว่ามีคนนำหมวกและเสื้อคลุมสีแดงมาใส่ให้ตุ๊กตาหินแต่ละตัวนะคะ เพื่อช่วยกันหนาวให้จิโซะ น่ารักมากๆ เลยค่ะ
ด้านหน้ามีเทะมิสึยะ (Temizuya) ศาลาเล็กๆ ที่มีบ่อน้ำพร้อมกระบวยให้เราล้างมือ ล้างปาก ทำความสะอาดก่อนที่จะเข้าไปในบริเวณวัดด้านใน
นอกจากนี้ยังมีกระถางธูปอยู่ ซึ่งการที่มีกระถางธูปตั้งอยู่แบบนี้ก็สามารถบอกได้เลยว่าที่นี่คือวัด ไม่ใช่ศาลเจ้า เพราะถ้าเป็นศาลเจ้าจะไม่มีกระถางธูปแบบนี้นะคะ คนนิยมมาจุดธูปแล้วปักในกระถาง ขอพร แล้วหลังจากนั้นก็ปัดให้ควันธูปนั้นลอยเข้ามาที่ตัว เพราะเชื่อว่าจะทำให้เรามีแต่ความโชคดี สุขภาพแข็งแรง ถ้าเป็นเด็กก็จะทำให้โตเร็ว แข็งแรงและเรียนเก่งค่ะ สรุปก็คือมีแต่เรื่องดีๆ ที่มากับควันธูปนั่นเอง
โบสถ์หลังใหญ่ สีแดงตั้งตระหง่านอยู่กลางวัด โบสถ์แห่งนี้เป็นโบสถ์ไม้ที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกของญี่ปุ่น เมื่อเดินเข้ามาด้านในจะเห็นป้ายเขียนเอาไว้ว่าห้ามถ่ายรูปเป็นระยะๆ ถ้าหากว่าต้องการถ่ายรูปส่วนไหน จะต้องลองถามเจ้าหน้าที่ก่อนนะคะว่าสามารถถ่ายภาพได้หรือไม่
cr : http://www.pref.yamanashi.jp
เรื่องสนุกที่ได้เกริ่นไว้ในตอนต้นนั่นก็คือ อย่างแรกค่ะ รูปมังกรที่อยู่บนเพดานโบสถ์ มังกรตัวใหญ่ถูกวาดเอาไว้บนนั้นและว่ากันว่า สายตาของมังกรตัวนั้นจะจับจ้องที่เราอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าเราเดินไป ณ จุดไหนของโบสถ์มังกรก็จะมองตาม และมีอยู่จุดหนึ่งค่ะ ที่มังกรมองเราอย่างจ้องเขม็ง ทางวัดได้มาร์คจุดเอาไว้ เราก็ลองเดินไปที่จุดนั้นดูนะคะ แอบขนลุกเลย 555+
ส่วนเรื่องสนุกเรื่องที่สองก็คือ บนเพดานจะมีอยู่จุดหนึ่งที่เป็นจุดรับเสียงสะท้อนจากการปรบมือของเราเอง ทางวัดมาร์คจุดเอาไว้ เราไปยืน ณ จุดนั้น แล้วปรบมือ จะรู้สึกได้ว่ามีพลังงานจากการปรบมือของเรา สะท้อนไปบนเพดานแล้วกระทบมาที่ตัวเราอีกทีหนึ่ง ซึ่งเค้าว่าเป็นเสียงของมังกรค่ะ แอดลองไปยืนปรบมือที่บริเวณอื่นๆ ของโบสถ์ก็ไม่เกิดการสะท้อนกลับแบบนี้นะคะ น่าแปลกใจมากๆหลังจากนั้นคุณไกด์ท้องถิ่นก็พาไปเดินชมพระพุทธรูปเก่าๆ ที่ล้ำค่า ซึ่งเป็นสมบัติของทางวัด วางเอาไว้ตามทางเดินในโบสถ์ ให้เราได้ชื่นชมกัน จนมาถึงห้องแห่งความมืด อีกหนึ่งเรื่องสนุก เรื่องที่สามของวัดแห่งนี้ ห้องนี้เป็นห้องมืด มืดในที่นี้คือมืดจริงๆ เลยนะคะ ไม่มีแสงเล็ดลอดเข้าไปแม้แต่น้อย เราต้องเดินไปตามสัญชาตญาณ ใช้มือคลำทางไปเรื่อย หลับตาหรือลืมตาก็มีค่าเท่ากันค่ะ มองไม่เห็นอะไรเลยจริงๆ จนจินตนาการเกือบทำร้ายตัวเอง 555+
ด้วยความที่เป็นคนกลัวผี ตอนแรกคิดว่าไม่เข้าดีกว่า มืดขนาดนี้ แต่คุณไกด์แจ้งว่า ห้องนี้มีลักษณะของห้องเหมือนหัวใจของคน ใครที่เดินผ่านห้องนี้ไปได้ เปรียบเสมือนได้ผ่านเรื่องร้ายๆ ที่มืดมนและเมื่อพบทางออก นั่นเปรียบเสมือนกับการได้เกิดใหม่อีกครั้งหนึ่ง อย่างน้อยเราก็เอาชนะใจตัวเองให้เดินผ่านความมืดมาได้ สำหรับแอดคิดว่าคล้ายๆ ปริศนาธรรมที่ว่าคนเราทุกคนต้องเจอปัญหา ช่วงทีเผชิญกับปัญหานั้นก็เหมือนความมืดดำในห้องนั้น และสุดท้ายทุกปัญหาย่อมมีทางออก และแสงสว่างให้เราเสมอ ซึ่งคนที่จะแก้ปัญหาต่างๆ ได้นั้นก็คือตัวของเราเองนั่นเองค่ะ แหม่..ช่างลึกซึ้ง
เป็นอย่างไรบ้างคะ วัดที่ดูเหมือนธรรมดา แต่ไม่ธรรมดาเลย เสียดายมากๆ ที่ทางวัดไม่อนุญาตให้เราถ่ายรูปในโซนที่ว่าไปข้างต้น แต่ไม่เป็นไรนะคะ หากเพื่อนๆ ได้มาเที่ยวที่จังหวัดยามานาชิ อย่าลืมมาเที่ยวที่วัดนี้นะคะ เป็นวัดที่สนุกที่สุดที่แอดเคยไปมาเลยค่ะ แล้วอีกหนึ่งความสำคัญของวัดนี้ก็คือ ที่นี่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมด้วยนะคะ
รายละเอียดเพิ่มเติม
การเดินทาง : จากสถานี JR Kofu Station นั่งรถแท็กซี่มาใช้เวลาประมาณ 12 นาทีหรือถ้าลงที่สถานี JR Sakaori Station เดินประมาณ 10 นาที แต่ถ้าหากขับรถมา ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีจาก Ichinomiya-Misaka Interchange
ที่ตั้ง : Zenkoji Office, 400-0806, Kofu, Yamanashi Prefecture, Zenkoji 3-36-1
เว็บไซต์ : www.kai-zenkoji.or.jp
เบอร์โทรศัพท์ : 055-233-7570
เวลาทำการ : 9:00-17:00
สามารถติดตามบทความต่างๆ สถานีที่ท่องเที่ยวในจังหวัดยามานาชิได้ต่อ >> ที่นี่เลยค่ะ
เรื่องและรูปภาพโดย : แอดมินออยลี่
![]() |
Kozantei Ubuya Ryokan เรียวกัง5 ดาว อ่างแช่น้ำร้อนส่วนตัว พร้อมวิวแบบ EXCLUSIVE มองเห็นภูเขาไฟฟูจิ
Yamanashi | view 71,248 |
![]() |
แนะนำการเดินทางจากโตเกียว ไป จ.ยามานาชิ (คาวากุชิโกะ) ง่ายนิดเดียว
Yamanashi | view 62,549 |
![]() |
ฟูจิคิว ไฮแลนด์ สวนสนุกสุดพลีชีพที่ให้คุณปลดปล่อยความเครียดได้เต็มรูปแบบ!
Yamanashi | view 53,292 |
![]() |
Regina Kawaguchiko Hotel : โรงแรมสำหรับครอบครัวที่ทุกห้องมองเห็นฟูจิซังเต็มๆ
Yamanashi | view 40,019 |
![]() |
ไปกอดลม ห่มรัก ฮักฟูจิซัง กันที่ The Kukuna Hotel รร.ที่ทำเลดีที่สุดในคาวากุชิโก
Yamanashi | view 39,683 |