Hyogoเที่ยวนอกกรอบ : ปราสาทลอยฟ้า Machu Picchu แห่งญี่ปุ่น

เที่ยวญี่ปุ่น ใครๆ ก็เที่ยวได้ แต่เที่ยวญี่ปุ่นด้วยรูทการเดินทางที่มีเรื่องเล่าตำนานมากมายให้ขนลุก  เดินไปตื่นเต้นไปนั้น ไม่ได้หากันง่ายๆ นะ!! ขาเที่ยวสายโหด วันนี้ตามแอดมินโซระไปเที่ยวแนวประวัติศาสตร์ที่จังหวัดเฮียวโกะ ทริปเล็กๆ 1 วันจบ ไม่เร่ง ไม่รีบ ไม่เหนื่อย และไม่ค่อยซ้ำใคร แถมยังกลับมามีเรื่องเล่ามากมายให้เพื่อนๆ ฟังอีก  มาค่ะเร่เข้าม๊าาาา

มาดูรูทการเดินทางกันก่อนนะก๊ะเบบี๋

วันนี้เราจะเริ่มต้นรูทการเดินทางจากสถานี HIMEJI นั่งรถไฟหวานเย็นมุ้งมิ้งมาจนถึง ปราสาททาเคดะ  ชะแว๊งงงงง  เอาภาพจากมุมที่ถ่ายจากภูเขาอีกลูกไปก่อนนะคะ ภาพนี้ถ่ายโดยศิลปินและตากล้องสุดหล่อของสาวไทยที่มีผลงานภาพถ่ายสถานที่ดังๆ มากมายในญี่ปุ่น ในรูปแบบพอกเกตบุ๊กชื่อ Japan Best Destinations  รวมสุดยอดจุดหมายที่คนรักญี่ปุ่นต้องไป ภาพสวยม๊ากกก เชื่อมือได้ เพราะเจ้าตัวเดินทางขึ้นเขาลงห้วยอดหลับอดนอนเพื่อเก็บมุม UNSEEN สวยๆ ให้แฟนๆ ได้เห็นกัน ใครที่ชอบเที่ยวญี่ปุ่นและมองหาที่สวยๆ ไปพักผ่อนหย่อนใจแล้วล่ะก็ จงซื้อค่ะ!  (ขายของให้นางนิดนึงเพราะยืมภาพนางมา เนื่องจากกล้องมุ้งมิ้งของแอดโซระนั้นไม่สามารถถ่ายภาพข้ามภูเขาได้นั่นเอง คร่อก~)

Picture provided: Supparuj Techatanont

Picture provided: Supparuj Techatanont

ช่วงที่ถ่ายภาพนี้คือต้นเดือนเมษายน เป็นช่วงที่ซากุระบานที่เมืองเฮียวโกะ อากาศเย็นสบายและภูเขาโดยรอบเริ่มเปิดให้เข้า หากโชคดี วันที่มีฝนตกและอากาศบนพื้นดินและด้านบนแตกต่างกัน จะเกิดเมฆหมอกล้อมรอบปราสาทจนเหมือนปราสาทลอยอยู่บนเมฆ จนได้ฉายาว่า Machu Picchu ของญี่ปุ่น และปราสาทนี้เพิ่งจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเมื่อปี 2015 นี่เอง

Picture provided: Yoshida Toshihisa

Picture provided: Yoshida Toshihisa

Picture provided: Yoshida Toshihisa

ปราสาททาเคดะนั้น ภาพที่ติดตาทุกคนคงจะไม่พ้นภาพปราสาทลอยฟ้าที่ถูกปกคลุมไปด้วยหมอก  โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมคือ ช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว  เดิมทีนั้น ปราสาทนี้ถูกสร้างขึ้น โดย Ohtagaki Mitsukage ผู้ติดตาม Yamana Sozen  ซึ่งสร้างปราสาทแห่งนี้ขึ้นเพื่อเป็นป้อมปราการป้องกันการโจมตีจากทาง Harima และ Tanba  โดยในปี 1577 ปราสาท Takeda ถูกโจมตีและพ่ายให้กับ Toyotomi Hideyoshi  ปราสาทนี้จึงตกเป็นของ Toyotomi Hidenaga เข้ามาปกครอง เรื่อยมาจนถึง Akamatsu Hirohideแต่น่าเสียดายที่ลอร์ดคนสุดท้ายที่ปกครองปราสาทนี้ได้พ่ายแพ้ในศึก Sekigahara และปราสาท Takeda เองก็ถูกเผาทำลาย ว่ากันว่า ผู้ที่เผาปราสาทนี้ คือ Hirohide และต่อมาเค้าเองก็ได้ปลิดชีพตัวเองด้วยวิธีคว้านท้องที่เรียกว่า Seppuku นั่นเองค่ะ  แอดฟังประวัติแล้วก็รู้ได้ทันทีว่างานนี้เดินปราสาทตอนมืดๆ คงขนลุกขนพองแน่นอน เพราะทุกพื้นที่บนตัวปราสาทนั้นเป็นสมรภูมิรบและคงมีผู้คนมากมายที่ต้องเสียชีวิต ณ ที่แห่งนี้ทางเข้าไปที่บริเวณปราสาทนั้น มีป้ายตามภาพด้านล่างอยู่ ด้านขวามือป้ายเล็กๆ เขียนว่า "สถานที่นี้มีความเชื่อว่ามี Power Spot อยู่จริง" (# Power Spot หรือแหล่งพลัง หมายถึง สถานที่หรือสิ่งบางอย่างที่เชื่อว่ามีคลื่นพลังที่มีประโยชน์ โดยวัดและศาลเจ้าบางแห่งในญี่ปุ่นมีคุณสมบัตินี้ คลื่นพลังที่เป็นประโยชน์หมายถึงคลื่นพลังที่ดี เชื่อกันว่าเราจะสามารถดูดซับพลังงานที่ดีนี้ได้โดยการนำตัวเองไปยังจุดพลังนั้นหรือสัมผัสกับสิ่งเหล่านั้น และที่สำคัญ เวลาเข้าไปเยี่ยมชมสถานที่ที่มีพลัง Power Spot นั้น ต้องไม่พูดเรื่องไม่ดี หรือส่งคำพูดหรือความคิดด้านลบนะคะ)

Photo : JapanList

Photo : Sora Suzuki JapanList

Photo : Sora Suzuki ( JapanList )

ค่าเข้าชม  :  ผู้ใหญ่ 500 เยน, นักเรียน ไม่เสียค่าใช้จ่าย

เวลาทำการ  : 8 AM - 6 PM

พิกัด  : 35.300755, 134.828951

โฮมเพจ  :  http://www.city.asago.hyogo.jp/takeda/

ปราสาท Takeda นั้น มีจุดถ่ายรูปที่น่าสนใจอยู่ 2 จุดคือ ขึ้นไปที่ฐานปราสาทเลย กับอีกจุดคือ จุดชมวิวปราสาทจากภูเขาอีกลูกที่คุณรุจได้ปีนป่ายขึ้นไปเก็บภาพมาแบ่งปันให้เราดูด้านบน  พิกัดตามรอยสำหรับเขาลูกนี้ ต้องเช่ารถ หรือนั่งแท็กซี่ขึ้นไปเท่านั้น  โดยเพื่อนๆ ที่ต้องการตามพิกัด ตามข้อมูลนี้

สถานที่  : Ritsuunkyo (立雲峡)

ที่อยู่  :   立雲峡   日本, 〒669-5252 兵庫県朝来市和田山町竹田

พิกัด  :  35.286655, 134.841550

ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.city.asago.hyogo.jp/takeda/0000001274.html

รอบรถบัสจากสถานี Takeda ไปที่ปราสาท Takeda

สถานีรถไฟ Takeda Photo JapanList

ยังไม่จบแค่นี้ จากตารางที่แอดโซระวางแผนไว้ เราจะไปต่อกันที่เหมืองแร่เงิน Ikuno กันในพาร์ท 2  แต่ว่าเห็นทีเรื่องจะยาวไป แอดจบพาร์ทนี้ด้วยโรงแรมที่น่านอนม๊ากกกก แถมยังใกล้กับทางขึ้นปราสาท Takeda สุดๆ ไม่ต้องเดินทางไกล เหมาะกับคนที่วางแผนจะขึ้นไปถ่ายหมอกที่ปราสาทตั้งแต่ตี 4 โรงแรมที่แสนจะดีงามน้ำเดิน ประทับใจแอดโซระมากโดยเฉพาะหน้าตาของน้องพนักงาน  คืนนี้แอดโซระนอนที่ Takeda Castle Hotel EN ค่ะ

Photo Credit Homepage : www.takedacastle.jp

โรงแรมนี้แอดโซระบอกเลยว่า เป็นโรงแรมที่ให้ประสบการณ์ที่แปลก และไม่เหมือนใคร และที่อดจะพูดไม่ได้คือ ที่นอนนิ่มมากแก๊!!!! นอนสบายที่สุดในชีวิตตั้งแต่เคยนอนมา นิ่มเบอร์ไหนถามใจเธอดูตึกที่เป็นโรงแรมนี้มีอายุมากกว่า 100 ปี ซึ่งเริ่มแรกนั้น เป็นโรงงานผลิตเหล้าสาเกเก่าแก่ ซึ่งตั้งมาตั้งแต่สมัยเมจิ และต่อมาได้ปรับเปลี่ยนการออกแบบภายในและปรับให้เป็นโรงแรมดีไซน์สมัยใหม่แต่เต็มไปด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรมยุคเมจิที่ทำให้โรงแรมขนาด 5 ห้องพักนี้เต็มไปด้วยความอบอุ่นจนน่าประหลาดใจ  แอดมินโซระที่เป็นโรคกลัวโรงแรม มาเจอที่นี่บอกเลยว่า จะหาโอกาสมาเป็นครั้งที่สองแน่ๆ ค่ะ ด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่ใกล้ทางขึ้นปราสาททาเคดะ เหมาะกับผู้ที่อยากจะมาเห็นบรรยากาศปราสาททาเคดะบนเมฆยามเช้า และเดินเล่นบนถนนเก่าแก่ที่บ้านเรือนสองข้างทางแทบหน้าตาไม่ได้เปลี่ยนไปจากสมัยเมจิเลยเชียวล่ะ

โรงแรม EN Takeda ประกอบไปด้วยห้องพักเพียงแค่ 5 ห้องเท่านั้น  ซึ่งแต่ละห้องตกแต่งแตกต่างกันออกไป และมี 1 ห้องพักพิเศษที่สามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้าพักได้ด้วยค่ะ  ตามแอดโซระมาดูห้องพักทีละห้องกัน!

Photo : JapanList ห้องซากุระ

ห้องซากุระ คือห้องหลักของที่นี่ มีขนาด 45 ตารางเมตร พักได้ 1-5 ท่าน  ห้องแบ่งออกเป็นส่วนพักผ่อนส่วนกลางตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น แต่ที่นั่งบีนแบ็กสีแดงสดกลางห้องกลับทำให้ห้องนี้ดูมีชีวิตชีวาอย่างน่าประหลาดใจ

Photo : JapanList ห้องฟูจิ

ห้องฟูจิ พิเศษตรงที่เป็นห้องที่อยู่ชั้น 2 เพียงห้องเดียว และในวันที่ฟ้าเปิด จะสามารถมองเห็นปราสาททาเคดะจากหน้าต่างห้องนอนได้ เหมาะสำหรับวันพักผ่อนที่แสนสงบ

Photo : JapanList ห้องเคยะสะ

ห้องนี้เป็นห้องที่แอดโซระได้เข้าพักค่ะ ความพิเศษคือ ห้องนี้แต่เดิมเป็นห้องโกดังเก็บเหล้าสาเก เพราะฉะนั้น ห้องนี้กลิ่นหอมมากเท๊ออออ!!! ถึงจะมีโครงสร้างของเดิมอยู่แทบจะ 100% แต่ว่า เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น พื้นแบบควบคุมอุณหภูมิได้ และแอร์ปรับอากาศ หรือฮีทเตอร์นั้น จัดเต็มทุกห้อง เพราะฉะนั้นภายในห้องจึงอบอุ่นละมุนสาเกมาก ไม้ที่นำมาใช้ก็เป็นไม้หอม นี่บอกเลยว่าแอดหลับเป็นตาย หลับฝันดี ตอนเช้านี่แทบแซะกันออกมาเลยทีเดียวค่ะ

Photo :http://takedacastle.jp/ ห้องคัตสึระ

ห้องนี้เป็นห้องที่มีแขกพักพอดี แอดโซระเลยไม่ได้ถ่ายภาพจริงมาให้ดูกัน เป็นห้องขนาด 20 ตารางเมตร  ชั้น 1   แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องเสียงดังรอบๆ เลยค่ะ เพราะห้องทุกห้องนั้น มีผนังกันเสียงรบกวนอย่างดี ทำให้เราสามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่เลยเชียวล่ะ

Photo : http://takedacastle.jp ห้องคุสึโนะคิ

เป็นห้องพักในส่วนของตึกแยกพิเศษที่เพิ่มเข้ามาเมื่อไม่นานมานี้ เป็นห้องสำหรับแขกที่อยากจะนำน้องหมาแมวมาเที่ยวด้วยกัน โดยห้องพักเตรียมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกทุกอย่างที่จะทำให้ทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยงแสนรักได้พักผ่อนหย่อนใจกันได้อย่างไม่ต้องกังวลอะไรเลยล่ะค่ะ  ความใส่ใจของที่พักที่มีต่อแขก เห็นได้จากพื้นที่ใช้สำหรับห้องพักนี้เป็นพื้น non-slip สำหรับสัตว์เลี้ยง ที่ปลอดภัยแม้เจ้าตัวเล็กจะวิ่งซนไปมา อีกทั้งการที่ตัวตึกแยกออกมาจากตึกหลักนั้น เจ้าของไม่ต้องกังวลหากสัตว์เลี้ยงของคุณจะส่งเสียงบ้างเป็นบางที

ห้องพักทั้ง 5 ห้อง แอดบอกเลยว่า นอกจากบรรยากาศที่ดีงาม อบอุ่นเหมือนมานอนบ้านคุณย่า อาหารค่ะ!!! ความโดดเด่นที่สุดเลยคือ ห้องอาหารของที่นี่เป็นห้องอาหารดีกรีมิชลินไกด์ล่ะ  หลังจากที่ตะลอนเที่ยวมาทั้งวัน เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า มาเจอเมนูอาหารมื้อนี้เข้าไป  กรี๊ดสิคะ รออะไร! มาดูคอร์สมื้อเย็นของแอดโซระกันว่ามีอะไรบ้าง  แค่มองเมนูแอดก็หิวขึ้นมาอีกแล้วล่ะ T_T

Photo : JapanList

Photo : JapanList

Photo : JapanList อาหารคอร์สมื้อเย็นโดนเชฟมิชลินของที่นี่  อร่อยจนอยากเอาจานกลับไปดมต่อที่ห้องนอน Main Dish ของมื้อนี้คือ เนื้อ Tajima ค่ะ

อร่อยแบบ.....น้ำตาอาบสองแก้ม T^T 

เกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ   วัวทาจิมะ (Tajima ushi)  เป็นวัวสายพันธุ์ญี่ปุ่นขนดำ เลี้ยงอยู่ในเมืองทาจิมะ จังหวัดเฮียวโกะ ถูกจัดให้เป็นวัวที่มีคุณภาพดีที่สุด โดยส่วนใหญ่จะถูกนำไปเลี้ยงต่อเป็นวัวโกเบ และวัวมัทซึซากะ ซึ่งจัดเป็นสุดยอดเนื้อวัวของญี่ปุ่นและของโลก 

Photo : JapanList บริเวณรอบๆและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในที่พัก

สุดท้าย โบนัสเล็กๆ น้อยๆ สำหรับสมาคมสาวโสดบนคานอันหนาวเหน็บ อย่างเจ๊ลิซซี่ที่รีเควสหัวข้อ "เจอผู้ชายหล่อบอกด้วย" เอาไปค่ะ! พ่อหนุ่มสตาฟโรงแรมที่มีความมุ้งมิ้งเบอร์ 10 ใต้แสงไฟสีส้มของโรงแรมนั้น แอดโซระให้คะแนนความขลุบขลิบน้อง 10/10 ไปเลย สั่งให้ทำท่าอะไรก็ทำ โถ พ่อคุณ.... มานี่มา เดี๋ยวเจ๊จะส่งเรียนเองนะคะลูก  <3

Photo : JapanList

สำหรับใครที่มีแพลนจะมายลโฉมปราสาท Takeda หรือ Machu picchu แห่งญี่ปุ่นนั้น สามารถมองหาที่พักบริเวณใกล้ๆ อย่างเช่น โรงแรม EN นี้ได้ที่ลิงค์นี้เลยค่ะ  ==>   จองที่พักราคาพิเศษในจังหวัดเฮียวโกะ   แล้วติดตามบทความตอนต่อไป กับทริปตะลุยเหมืองแร่มาราธอนที่เต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์และเรื่องเล่าสุดหลอนมากมายที่ทำเอาทั้งล่ามทั้งแอดโซระวิ่งกันแตกกระเจิง ที่นี่เร็วๆ นี้ค่า

ตอนที่ 1 : คิโนซากิออนเซ็น เมืองออนเซ็นแสนมุ้งมิ้งสุดฮิตของชาวญี่ปุ่น!ตอนที่ 2 : Hyogoเที่ยวนอกกรอบ : พาเที่ยวTonomine ทุ่งดอกหญ้า4ฤดู กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา!

          สุดท้ายนี้ ขอบคุณการท่องเที่ยวจังหวัดเฮียวโกะที่เชิญแอดมินโซระไปเที่ยวในครั้งนี้  ทีมงานทุกๆ คนฝากมาบอกว่า อยากชวนให้คนไทยมาเที่ยวจังหวัดเฮียวโกะเยอะๆ เพราะจังหวัดนี้ยังมีอะไรอีกมากมายให้ค้นหาอีกทั้งชาวเฮียวโกะยิ้มแย้มแจ่มใส สโลว์ไลฟ์มุ้งมิ้งม๊ากกก แอดโซระที่ปกติแล้วเป็นสายเที่ยวในเมือง เน้นแนวซิตี้ทัวร์ มาจังหวัดนี้ถึงกับตกหลุมรัก วางแผนจองโรงแรมมาอีกครั้งตอนปลายปี เพราะอยากจะมาดูบรรยากาศเมืองที่แตกต่างออกไปในหน้าหนาวล่ะ  มาเที่ยวกันเยอะๆ นะคะทุกคน ฮูเร่!

 Special Thanks : Hyogo Prefecture