ช่วงเวลานี้ของปีถือเป็นช่วงไฮซีซั่นที่คู่รักจะควงแขนกันออกไปท่องเที่ยวก็ว่าได้ ซึ่งหลายคู่เลือกบินลัดฟ้าออกไปสัมผัสบรรยากาศที่แตกต่าง และตัวเลือกลำดับต้นๆ คงหนีไม่พ้นประเทศญี่ปุ่นค่ะ
ในวันนี้เราจะขอนำเสนอสถานที่ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการท่องเที่ยวของคู่รักและยังเป็นการเสริมดวงความรักให้มั่นคงแข็งแรงขึ้นอีกด้วย นั่นก็คือศาลเจ้าฮิคาวะค่ะ
ศาลเจ้าฮิคาวะในจังหวัดไซตามะซึ่งมีอายุเก่าแก่พันกว่าปีนี้เป็นศาลเจ้าที่ชาวไซตามะให้ความศรัทธาเป็นอย่างมาก และถือเป็นศาลเจ้าทางด้านความรักที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง เนื่องจากเป็นสถานที่สักการะเทพเจ้าคู่สามีภรรยาถึงสองคู่คือคู่ของ "ซูซาโนโอะ โนะ มิโคโตะ (Susanoo no Mikoto) เทพเจ้าแห่งทะเลและพายุและคุชิอินาดะฮิเมะ โนะ มิโคโตะ (Kushiinada hime no Mikoto) เทพีแห่งข้าว" กับคู่เทพ "อาชินาซูจิ โนะ มิโคโตะ" (Ashinazuchi no Mikoto) และเทพี "เทนาซูจิ โนะ มิโคโตะ" (Tenazuchi no Mikoto) ซึ่งเป็นพ่อแม่ของเทพีคุชิอินาดะฮิเมะ โนะ มิโคโตะค่ะ และยังมีเทพ "โอนามุจิ โนะ มิโคโตะ" (Oonamuchi no Mikoto)" ซึ่งเป็นลูกชายของเทพซูซาโนโอะ โนะ มิโคโตะกับคุชิอินาดะฮิเมะ โนะ มิโคโตะ ที่เหล่าทวยเทพองค์อื่นต่างมาขอคำปรึกษาและคอยเล่าเรื่องการผูกดวง ผูกสัมพันธ์ของมนุษย์อยู่เสมออีกด้วย
เมื่อเดินทางไปถึงศาลเจ้า ที่ด้านหน้าเราจะพบกับซุ้มประตูโทริอิเสาหินซึ่งเป็นทางเข้าดั้งเดิมของวัดค่ะ
และเมื่อเดินลอดซุ้มประตูเข้าไปจะพบกับอาคารศาลเจ้าหลักที่ไว้สำหรับสักการะขอพรเทพเจ้า
แต่ก่อนอื่นอย่าลืมชำระล้างมือที่อ่างหินซึ่งอยู่ใกล้กับประตูโทริอินะคะ
ทางด้านขวามือเราจะเห็นซุ้มประตูโทริอิสีส้มขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ค่ะ กล่าวกันว่าเป็นประตูโทริอิไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นด้วยนะคะ
อีกจุดหนึ่งที่ได้รับความสนใจไม่แพ้กันก็คือจุดขายเครื่องราง โดยที่นี่มีเครื่องรางให้เลือกมากมาย ทั้งแบบน่ารักๆ ไว้พกติดตัวหรือซื้อไปเป็นของฝากก็ได้ค่ะ ซึ่งเครื่องรางที่ได้รับความนิยมคงหนีไม่พ้นเครื่องรางแห่งความรักต่างๆ อย่าง เดไอ โคอิ (Deai Koi) เครื่องรางสำหรับการพบเจอครั้งใหม่
อุตสึคุชิ มาโมริ (Utsukushi Mamori) เครื่องรางสำหรับความงามทั้งกายและใจ
อากะเอ็มปิตสึ (Akaempitsu) คือดินสอที่มีรูปคนอยู่ที่ปลอกและส่วนปลายของด้ามดินสอ หากใช้ดินสอจนสั้นลงเรื่อยๆ คนทั้งสองก็จะยิ่งขยับเข้ามาใกล้กัน เหมือนกับความสัมพันธ์ที่จะยิ่งใกล้ชิดผูกพันกันมากขึ้นนั่นเองค่ะ
รูปภาพจาก : https://matcha-jp.com/th/greatertokyo/5561
และยังมีแผ่นป้ายเอมะไว้สำหรับเขียนขอพรเทพเจ้าอีกด้วย ซึ่งแผ่นป้ายขอพรเกี่ยวกับความรักก็มีอีกเช่นกันนะคะนอกจากนี้ที่มุมหนึ่งภายในบริเวณศาลเจ้ายังมีต้นไม้สามีภรรยาอยู่ หากได้ลองเดินวนเป็นรูปเลขแปดแล้วจะช่วยเสริมดวงด้านความโชคดีอีกด้วยค่ะ
สำหรับวิธีการเดินทางมาที่ศาลเจ้าฮิคาวะในครั้งนี้ เราเลือกใช้บริการรถไฟโทบุ (Tobu) ขึ้นที่สถานีอิเคบุคุโระในโตเกียว วิ่งตรงมาลงที่สถานีคาวาโกเอะ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากนั้นการเดินทางภายในเมืองคาวาโกเอะก็ใช้บริการรถบัสโทบุ (Tobu) มาลงที่ป้ายคาวาโกเอะฮิคาวะจินจะ (Kawagoe Hikawa Jinja) ค่ะ แต่การเดินทางมาที่คาวาโกเอะและการเดินทางภายในเมืองไซตามะนั้นยังมีวิธีการอื่นๆ ที่นอกเหนือจากนี้อีก จึงสามารถเลือกได้ตามความพึงพอใจและความคุ้มค่าของแต่ละบุคคลนะคะ
คู่รักคู่ไหนที่ยังคงมองหาสถานที่เที่ยวใหม่ๆ ก็ลองมาแวะสักการะศาลเจ้านี้เพื่อความเป็นสิริมงคลและยังเป็นการท่องเที่ยวเมืองไซตามะที่มีบรรยากาศแบบสบายๆ ไปในตัวกันได้นะคะ แต่สำหรับใครที่มาคนเดียวหรือไม่ได้มาเป็นคู่ ที่นี่ก็เหมาะเป็นอย่างยิ่ง เพราะหากได้ลองมาที่นี่แล้วก็คงจะได้รับพรจากเทพเจ้าและพกพาเอาความสบายใจกลับไปแน่ๆ ค่ะ