ถ้าถาม #travelholic ว่าไปเที่ยวที่ไหนใช้วิธีการเดินทางที่หลากหลายที่สุด คงต้องตอบว่า ที่นี่ค่ะ ที่ Hakone
หลังจากซื้อ Hakone Free Pass ที่ Odawara Station เรียบร้อยแล้ว การเดินทางทุกชนิดของเราในวันนี้จะเริ่มต้นที่นี่
เริ่มกันด้วย Hakone Tozan Train รถไฟขบวนสีแดงขบวนนี้ พาเราลัดเลาะไปเรื่อยๆ เดินทางจาก Odawara Station ไป Hakone Yumoto Station
จากคำแนะนำของน้อง Staff ที่จุดจำหน่ายตั๋ว บอกว่าวันนี้ท้องฟ้าจะเปิดให้เราพบคุณฟูจิซังที่ทะเลสาบ Ashi ในช่วงก่อนเที่ยง ดังนั้นจาก Hakone Yumoto Station เราเลยนั่งรถบัสตรงไปที่ท่าเรือ Motohakone-Ko เพื่อจะขึ้นเรือโจรสลัด Hakone Sightseeing Cruise ชมทะเลสาบกันค่ะ
หลังจากนั่งรถบัสขึ้นภูเขา วกไปวนมาให้พอเวียนหัว ก็มาถึงท่าเรือ แต่เรายังมีเวลา เลยเดินไปไหว้ศาลเจ้า Hakone กันก่อนค่ะ
ทางเดินอันแสนร่มรื่นบริเวณทางเข้าของศาลเจ้า Hakone เดินเพลินๆ จากท่าเรือขึ้นบันไดพอได้เหงื่อก็จะถึงตัวศาลเจ้าค่ะ
ศาลเจ้า Hakone เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ในศาสนาชินโต ว่ากันว่าสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 745 หรือยุคของจักพรรดิโคโช โดยที่ตั้งเดิมนั้นอยู่บนยอดเขา Hakone พร้อมกับมีตำนานเล่าว่าชาวบ้านในบริเวณต่างต้องทนทุกข์กับภัยพิบัติขนาดใหญ่ทุกปี ซึ่งเชื่อกันว่าเกิดจากมังกร 9 หัวที่อาศัยอยู่ในก้นทะเลสาบ Ashi จนทำให้ต้องมีการบูชายัญมังกรด้วยชีวิตของเด็กทารกปีละ 1 คนมาตลอด กระทั่งในปีค.ศ. 1667 มีนักบวชรูปหนึ่งเดินแสวงบุญผ่านมาบริเวณนี้ จึงได้ช่วยชาวบ้านสะกดวิญญาณของมังกร 9 หัวเอาไว้ในทะเลสาบ และย้ายที่ตั้งของศาลเจ้าจากบนยอดเขาลงมาที่บริเวณริมทะเลสาบจนถึงทุกวันนี้
ใกล้ได้เวลาขึ้นเรือโจรสลัดแล้ว เราต้องเดินกลับมาที่ท่าเรือแล้วค่ะ ระหว่างทางแวะซื้อ cheesecake เจ้าดังมานั่งชิลล์ริมทะเลสาบ ทั้งรสชาติ ทั้งบรรยากาศ ละมุนพอๆ กัน
นั่งทอดอารมณ์ไปเรื่อยๆ ระหว่างรอเรือโจรสลัด จากมุมนี้มองเห็นเสาโทริอิสีแดงของศาลเจ้า Hakone ที่ตั้งอยู่ในทะเลสาบด้วยค่ะ
และแล้วก็ถึงเวลาขึ้นเรือค่ะ เรือลำนี้แหละจะพาเราล่องไปในทะเลสาบ Ashi ชมความสวยงามของธรรมชาติและมีคุณฟูจิซังเป็นฉากหลัง เราใช้เรือลำนี้เดินทางจากท่าเรือ Motohakone-Ko ไปขึ้นที่ท่าเรือ Togendai-Ko เพื่อขึ้นกระเช้าต่อ สำหรับเรือที่จะพาเราล่องทะเลสาบไปนั้นจะมีทั้งหมด 3 ลำด้วยกัน คือ เรือ Royal II, เรือ Victory และเรือ Vasa ซึ่งเรือแต่ละลำก็จะมีการออกแบบที่แตกต่างกันไป ซึ่งน่าสนใจไม่แพ้กันเลย ส่วนเราจะได้ขึ้นเรือลำไหนนั้นก็เป็นการสุ่ม และถ้าอยากขึ้นลำอื่นก็ต้องแวะมาที่ Hakone ใหม่นะคะ
ชมวิวไปเรื่อยๆ เราได้เห็นเสาโทริอิในระยะใกล้ เห็นฟูจิซังในระยะไกล ดื่มด่ำบรรยากาศไปพร้อมๆ กันนะคะ
ท้องฟ้าสดใส มองเห็นฟูจิซังแบบเต็มๆ เหมือนที่น้อง staff แนะนำมาจริงๆด้วย ต้องขอบคุณน้องเค้านะคะ ทำให้เราเห็นฟูจิซังในอีกมุมมองนึง สวยงาม ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ที่ไหนจริงๆ
เรือโจรสลัดอีกลำที่ล่องสวนมา เห็นแล้วแอบคิดในใจว่าคงต้องหาโอกาสมาลองขึ้นลำอื่นๆ บ้างแล้วแหละ
ขึ้นจากเรือที่ท่าเรือ Togendai-Ko การเดินทางของเรายังไม่จบนะคะ เรามาขึ้น Hakone Ropeway ต่อไปยังสถานี Sounzan ระหว่างทางเราจะได้เห็นก้นหุบเขาที่มีควันภูเขาไฟพวยพุ่งขึ้นมา แต่น่าเสียดายที่วันนี้ สถานี Owakudani ไม่อนุญาตให้เราออกไปนอกตัวอาคาร เพราะมีปริมาณกำมะถันที่สูง เลยอดไปชิมไข่ดำ (Kuro Tamago) ซึ่งต้มด้วยน้ำแร่กำมะถันที่ผุดขึ้นมา และสีดำของเปลือกไข่มาจากสีของกำมะถันนั่นเอง คนญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าการได้กินไข่ดำ 1 ฟองจะทำให้อายุยืนขึ้นอีก 7 ปี
ควันพวยพุ่งแบบนี้ ข้างในภูเขาคงกำลังเดือดปุดๆ อยู่แน่เลย ขนาดไม่ได้ลงไปใกล้ อยู่ในกระเช้าแบบนี้ยังได้กลิ่นกำมะถันรุนแรงมากเหมือนกัน
พอมาถึงสถานี Sounzan เราเปลี่ยนจากกระเช้ามาต่อด้วย Hakone Tozan Cable car ไปที่สถานี Gora ค่ะ
มาถึงที่สถานี Gora อย่าเพิ่งรีบกลับกันนะคะ ด้านหลังสถานีมีร้านค้า ร้านขายของฝากมากมาย ให้เดินเลือกซื้อ #travelholic เองก็แวะซื้อ ไข่ดำ จากร้านแถวนี้แหละค่ะ อยากจะอายุยืนกับเค้าบ้าง เลยจัดไปเบาๆ 2 ใบ จากที่นี่เราเดินทางกลับไปที่สถานี Hakone Yumoto ด้วยรถบัสค่ะ ถือว่าเป็นการปิดท้ายการเดินทางที่หลากหลายใน Hakone
จริงๆแล้วการเดินทางด้วย Hakone Free Pass สามารถเลือกจุดเริ่มต้น และวิธีการเดินทางได้หลากหลาย ตามความสะดวกและสภาพอากาศในแต่ละช่วงเวลา หวังว่าคงจะสนุกกับการเดินทางกันนะคะ