เที่ยวตามคนญี่ปุ่นกับ 8 สถานที่เด็ดในจังหวัดฟุกุชิม่า

จังหวัดฟุกุชิม่า (Fukushima, 福島県) ตั้งอยู่ในภูมิภาค Tohoku ของเกาะฮอนชู หรือเรียกให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ ภาคอีสานของญี่ปุ่นค่ะ หลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี 2011 ที่ผ่านมา ทำให้จังหวัดฟุกุชิม่า ได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่ตอนนี้ทุก ๆ อย่างก็เริ่มกลับมาเป็นปกติปลอดภัย และพร้อมให้นักท่องเที่ยว ได้กลับมาชมความงามและเพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวจังหวัดฟุกุชิม่ากันอีกครั้งค่ะ เราไปดูกันดีกว่าค่ะว่า การท่องเที่ยวในจังหวัดฟุกุชิม่า สไตล์คนญี่ปุ่นที่นิยมไปเที่ยวกันจะมีที่ไหนเด็ด ๆ แบบที่คนต่างชาติอย่างเรา ไม่รู้ตามไปอ่านต่อกันเลยดีกว่าค่ะ Local รู้อะไรเราก็รู้ได้เหมือนกันนะ

การเดินทางจากโตเกียวไปยังจังหวัดฟุกุชิม่า สามารถเดินทางโดยรถไฟชินคังเซนจากสถานีโตเกียว โดยใช้เวลา เพียง 1.35 ชม.เท่านั้นค่ะ สำหรับเมืองที่เลือกไปลงก็คือเมือง โคริยามะ (Koriyama, 郡山市) ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ ศูนย์กลาง ของจังหวัดฟุกุชิม่า และยังเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและการคมนาคม ที่สำคัญของจังหวัดฟุกุชิม่า อีกด้วยค่ะ

มาสคอตประจำเมือง Koriyama ได้แก่ Gakuto kun (がくとくん) และ Onpu chan (おんぷちゃん) พี่ชาย และ น้องสาวตัวโน๊ตดนตรี ซึ่งตัวแทนแห่งเมือง Koriyama เมืองแห่งเสียงดนตรีนั่นเองค่ะ

1.ศาลเจ้า Asakakunitsuko Shrine (安積国造神社)

จากสถานี Koriyama เดินไม่ไกลจากสถานีจะเจอกับศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ของเมืองโคริยามะ ที่คนในชุมชนต่างให้ ความเคารพนับถือกันเป็นอย่างมาก นั่นก็คือ “ศาลเจ้า Asakakunitsuko Shrine (安積国造神社)” ซึ่งเป็น ศาลเจ้าชินโต ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยของพระจักรพรรดิ์ Seimu หรือราว ๆ ปี ค.ศ. 135 – 191 ถือได้ว่ามี ประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1900 ปีเลยทีเดียวค่ะ

ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองและสามารถเดินจากสถานี Koriyama เพียงแค่ 8 นาที ก็จะได้สัมผัสกับศาลเจ้า ที่เต็มไปด้วย ความศักดิ์สิทธิ์ สงบ และแวดล้อมไปด้วย ธรรมชาติที่ให้ความร่มรื่น จนไม่รู้เลยว่านี่กำลังอยู่ ใจกลางเมืองจริง ๆ

นอกจากนี้ ศาลเจ้า Asakakunitsuko Shrine ยังมีชื่อเสียงเกี่ยวกับการขอพรเทพเจ้าให้ประสบความสำเร็จในทุก ๆ ด้านอีกด้วยค่ะ แต่เรื่องเด่น ๆ เลยก็คือการขอพรจากเทพเจ้า Wakumusubi no Kami ซึ่งเป็นเทพแห่งการทำการเกษตร พืชพรรณธัญญาหาร ที่ชาวเมืองให้ความนับถือมาตั้งแต่สมัยโบราณอีกด้วย

พิกัดการเดินทาง : สามารถเดินจากสถานี Koriyama ได้ใช้เวลาเพียง 8 นาที

พิกัดจาก Google map : 37.398803, 140.381972

2.USUI FARM

USUI FARM เป็นฟาร์มผลไม้ที่มีชื่อเสียงของจังหวัด Fukushima ตั้งอยู่ที่เมือง Sukagawa ตั้งอยู่ทางตอนใต้ ของเมือง Koriyama ฟาร์มนี้มีผลไม้ปลูกตลอดทั้งปี โดยในช่วงนี้ (ตุลาคม - พฤศจิกายน) เป็นช่วงของแอปเปิ้ล ซึ่งสามารถมาเก็บแอปเปิ้ลสด ๆ จากต้นทานได้ด้วยตัวเองค่ะ

สำหรับพันธุ์แอปเปิ้ลที่ปลูกในฟาร์มนี้มีชื่อว่า Jonagold (ジョナゴールド ) ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจาก ประเทศอเมริกา และได้เข้ามาปลูกในญี่ปุ่นครั้งแรกราว ๆ ปี 1970 สำหรับแอปเปิลพันธุ์นี้ รสชาติจะหวาน อมเปรี้ยวนะคะ และยังเป็นแอปเปิลพันธุ์เดียวกันกับที่ปลูกในจังหวัดอาโอะโมริ ด้วยเช่นกันค่ะ

นอกจากนี้ USUI FARM ยังมากไปด้วยประสบการณ์ ในการทำการเกษตรกว่า 300 ร้อยปี ที่ส่งต่อองค์ความรู้แ บบรุ่นต่อรุ่น และเจ้าของสวนการันตีผลผลิตที่มี ความปลอดภัย และปราศจากจากสารเคมีใด ๆ เจือปน และนอกจากนี้ยังสามารถเข้าชมสวนเก็บผลไม้ชนิดอื่น ๆ ที่หมุนเวียนกันปลูกไปตามแต่ฤดูกาล ได้อีกด้วยค่ะ สำหรับเพื่อน ๆ สนใจอยากไปเก็บผลไม้ที่ USUI FARM ก็มีค่าบริการต่อคนอยู่ที่ 1,080เยน (รวมภาษีแล้ว) ภายในเวลา 1 ชั่วโมง เก็บผลไม้แล้วก็ทานกันสด ๆ ที่สวนเท่านั้นนะคะ รับประกันความสด อร่อย ปลอดภัย และปราศจากสารเคมี การันตีโดยเจ้าของฟาร์ม อิอิ

อีกหนึ่งจุดเด่น ของฟาร์มนี้ก็คือ วิธีการสลักชื่อ หรือ ทำลายลงบนพื้นผิวแอปเปิ้ล ให้ผลไม้ดูมีกิมมิค สร้างสีสันให้กับการกินแอปเปิ้ลธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอีกต่อไป และที่สำคัญแอปเปิ้ลผลนั้น ก็อาจจะเป็นแอปเปิ้ล ที่มีผลเดียวในโลกเลยนะคะ เพราะว่า เป็นการทำด้วยมือแบบลูกต่อลูก ถ้าไม่ใส่ใจริงคงทำไม่ได้อย่างแน่นอนค่ะ ถ้าจะซื้อเป็นของฝาก ก็น่าจะสร้างความประทับใจ ได้ไม่น้อยเลยทีเดียวเชียวค่ะ

สำหรับฟาร์มนี้ยังมีสินค้าอื่นนอกจากการเก็บผลไม้ด้วยนะคะ เรียกว่าเด็ดดวง แบบที่ไม่มีที่ไหน ในญี่ปุ่นมาก่อน นั่นก็คือ ไอศกรีมรสชาติผัก และ ผลไม้ โดยตัวเด็ดที่ว่าได้แก่ “ไอศกรีมรสชาติแตงกวา” เมืองฟุกุชิม่า แตงกวามีชื่อเสียงมากค่ะ  ทางฟาร์มก็เลยนำมาดัดแปลงทำเป็นไอศกรีม สร้างความตื่นเต้น และแตกต่างจากที่อื่น ๆ โดยเจ้าของฟาร์มการันตีเองเลยว่า ในญี่ปุ่นไม่มีที่ไหนนำแตงกวามาทำเป็นไอศกรีม มีที่ฟาร์มที่นี่เพียงที่เดียว ถ้ามาถึงที่ฟาร์มแล้วก็ต้องลองให้ได้ค่ะ

ถ้าเพื่อน ๆ สนใจอยากมาเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบคนท้องถิ่นญี่ปุ่น เพื่อน ๆ สามารถจองผ่านทาง

website : https://goo.gl/hDXcxJ หรือ ทางโทรศัพท์ (+81)0248 760711 เจ้าของฟาร์มจะไปรับ และ ส่งที่ สถานีรถไฟ Sukagawa Station

พิกัดจาก Google map: 37.309210, 140.380878

พิกัดการเดินทาง : จากสถานี Koriyama ให้นั่งรถไฟ JR Tohoku line ลงที่สถานี Sukagawa ใช้เวลาเพียง 10นาที ค่ารถไฟ 240¥

3.IWASE FARM

IWASE FARM เป็นฟาร์มที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นมีอายุกว่า 130 ปี สร้างในสมัยเมจิตอนต้น โดยรัฐบาล เป็นผู้สร้าง ในตอนแรกนั้นเป็นสถานที่สร้างเพื่อเป็นที่พักผ่อนของจักรพรรดิ ฟาร์มนี้มีแรงบันดาลใจในการสร้าง และสไตล์มาจากประเทศเนเธอร์แลนด์

โดยมีการนำเข้าวัวสายพันธุ์ Holstein  ホルスタイン จากเนเธอร์แลนด์ในยุคแรกเริ่มที่ก่อตั้งฟาร์ม ซึ่งวัวสายพันธุ์นี้เป็นวัวที่มีสีดำ จุดขาว เลี้ยงเพื่อใช้ผลิตจากนม  ปัจจุบันนี้มีวัวทั้งหมด 45 ตัว ในช่วงปี 2011 ที่ผ่านมาฟาร์มก็ได้รับความเสียหาย เช่นเดียวกัน เสียค่าบำรุง ซ่อมแซม ปรับปรุงภายในฟาร์ม ทั้งหมดกว่า 70 ล้านเยน แต่เป็นที่น่าแปลกใจมากค่ะ ว่าสิ่งก่อสร้างที่เพิ่ง สร้างขึ้นใหม่กลับได้รับ ความเสียหายมากกว่าสิ่งก่อสร้างดั้งเดิมอีก ...

นอกจากนี้ ภายในฟาร์มนี้ ก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์สิ่งของทางการเกษตรอย่าง

รถแทรกเตอร์ Ford son รถที่ผลิตจาก Great Britain ในปี 1912 ถือว่าเป็นรถแทรกเตอร์ที่เก่าที่สุดในโลก และในประเทศญี่ปุ่นมีทั้งหมด 3 คันโดย 2 คันอยู่ที่ฮอกไกโด และอีกหนึ่งคันนั้นก็อยู่ที่ฟาร์มนี้ค่ะ

คอกวัว สมัยเก่าที่ยังคงเก็บอนุรักษ์เอาไว้ ซึ่ง 1 คอก สามารถเลี้ยงวัวได้ 85 ตัว

สัตว์ ที่มีอยู่ในฟาร์มนี้ ได้แก่

- วัวสายพันธุ์ Holstein  ホルスタイン เป็นวัวที่เลี้ยงเพื่อนำผลผลิตจากนมวัว ปัจจุบันมีจำนวน 45 ตัว

- นกฟลามิงโก้ Flamingos นกขนสีชมพู หาชมได้ยาก แต่สามารถมาชมได้ที่ฟาร์มนี้ค่ะ

- นกยูง ซึ่งมีอยู่ 4  ตัว

สถาปัตยกรรม ตึกเก่าอายุกว่า 100 ปี ช่วงเหตุการณ์แผ่นดินไหวในปี 2011 ที่ผ่านมาก็ได้เกิดความเสียหาย โดยเฉพาะในส่วนของหลังคาที่ทำจาก คายาบุกิ (茅葺 屋根) ที่มีค่าซ่อมแซมสูงถึง 10 ล้านเยน

ระฆัง เป็นสัญลักษณ์ของฟาร์ม มาจากเนเธอร์แลนด์ตั้งแต่ปี 1907 เก่าแก่มาก ๆ เลยค่ะ

ต้นไม้ ดอกไม้ ที่ปลูกในฟาร์มนี้ก็สวยสด งดงามน่าชื่นชมเช่นกันค่ะ เช่นต้นซากุระที่มีกว่า 80 ต้นและก็มีอายุกว่า 100 ปี สวนดอกไม้ต่าง ๆ เช่น สวนกุหลาบที่มีความยาวกว่า 40 เมตร โดยกุหลาบที่ปลูกในฟาร์มแห่งนี้ก็จะมีสีชมพู สีขาว สีแดง และ สีเหลือง ช่วงเดือนมิถุนายนเป็นช่วงที่เหมาะแก่การกุหลาบค่ะ

บึงดอกบัว ซึ่งมีทั้งแบบ outdoor  และแบบ  indoor ที่ควบคุมอุณหภูมิของน้ำ

บ้านต้นไม้ เป็นสิ่งปลูกสร้างที่ทำขึ้นใหม่เมื่อไม่นานมานี้ เป็นอีกหนึ่งกิมมิคที่เป็นที่น่าสนใจที่สามารถปีนขึ้นไปชม ความงามของฟาร์มในมุมสูงได้อย่างสนุกสนานเลยทีเดียวค่ะ

บาร์บีคิว เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความสนใจของคนญี่ปุ่น โดยเนื้อสัตว์ที่มีให้บริการก็คือ เนื้อวัว, เนื้อหมู, เนื้อแกะ โดยมีค่าใช้จ่ายต่อคน 1,620 yen (รวมภาษีแล้ว) โดยต้องจองล่วงหน้า 3 วัน

ซอฟต์ครีม เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผลผลิตที่ได้จากในฟาร์ม นั่นก็คือนมวัว เพราะวัวที่เลี้ยงภายในฟาร์มนี้ เลี้ยงเพื่อทำ “นม” เป็นหลัก ถ้ามีโอกาสมาที่ฟาร์มนี้อย่าพลาดชิม ซอฟต์ครีมรสวนิลาเลยนะคะ อร่อย สด หวาน มัน ครบเครื่องเลยค่ะ ราคา 350 เยน

บรรยากาศเป็นธรรมชาติและมีทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ เลยเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่โรงเรียนญี่ปุ่นมักจะพานักเรียนมาทัศนศึกษา และทำกิจกรรมกันเป็นประจำ

ค่าเข้า : ผู้ใหญ่, นักเรียนมัธยม 500เยน , นักเรียนประถม 300เยน, เด็กอายุน้อยกว่า 3  ปีเข้าฟรี

ที่อยู่ : 〒 969 - 0401 Fukushimaken Iwase-gun Kagamiishi-chō Sakura-chō 225

โทรศัพท์ : (+81) 0248-62-6789

Website: http://www.iwasefarm.com/index.html

เวลาทำการ : 9.00น. – 16.00น.

พิกัดจาก Google map : 37.252390, 140.365499

การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR สาย Tohoku จากสถานี  Koriyama ไปลงยัง สถานี Kagamiishi ใช้เวลา 15  นาที ค่ารถ 320 เยน จากสถานี Kagamiishi นั่งรถแท็กซี่ต่อมายังฟาร์ม ใช้เวลา 5 นาที , จากสนามบิน Fukushima นั่งรถแท็กซี่ต่อมายังฟาร์มใช้เวลา 15 นาที

4.ศิลปะบนนาข้าว (Tanbo art,田んぼアート)

สถานที่เสพงานศิลป์แบบธรรมชาติที่เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของเมือง Kagamiishi ในจังหวัด Fukushima  นั่นก็คือ “ศิลปะบนนาข้าว หรือ tanbo art ,田んぼアート” เป็นศิลปะความงามที่น่าประทับใจของคนในชุมชน ที่เกิดจากการร่วมมือร่วมใจกันทำขึ้นมา โดยนักเรียนนักศึกษาที่อยู่ในละแวกเมืองนี้มาช่วยกันทำ

โดยเมล็ดพันธุ์ข้าวที่นำมาปลูกนั้นมีทั้งหมด 7 สี มีเพียง 3 สีที่กินได้จริงคือ สีเขียวอ่อน, สีดำ และสีเหลือง แต่สำหรับสีขาว, สีแดง, สีส้ม และ สีเขียวเข้มไม่สามารถกินได้นะคะ ใช้สำหรับปลูกเพื่องานศิลปะอย่างแท้จริง

ลวดลายของงานศิลปะที่สร้างสรรค์ ขึ้นบนนาข้าว ส่วนใหญ่จะมาจากนิทานเพลงท้องถิ่นของญี่ปุ่น ซึ่งลวดลาย ก็จะเปลี่ยนไปทุก ๆ ปี  สำหรับช่วงที่เหมาะสำหรับการชม เริ่มตั้งแต่ ปลายเดือนกรกฎาคม ไปจนถึงเดือนตุลาคม แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของแต่ละปีด้วยค่ะ

การเดินทาง : สามารถนั่งรถไฟท้องถิ่นสาย Tohoku line จากสถานี Koriyama มาชมกันได้ที่ สถานี Kagamiishi เพียง 15นาที ค่ารถ 320¥ แล้วเดินต่อจากสถานีเพียง 2 - 3 นาทีจะเจอกับห้องสมุด (เข้าชมฟรี) และสามารถขึ้นไปชมความงามของศิลปะบนท้องนาในมุมสูงจากวิวของห้องสมุดบนชั้น 4 ได้ค่ะ

สถานีอยู่ซ้ายมือของภาพ

เว็บไซต์ : http://www.town.kagamiishi.fukushima.jp/tanbo/2017/index.php

เวลาเข้าชม : 9.00น. – 6.30 น.

5.ANGEL Forest Nasu Shirakawa RESORT (エンゼルフォレスト那須白河 )

ที่พักสุดเก๋ แน่นไปด้วยกิจกรรมแห่งเมือง TENEI เป็นที่พักแนวรีสอร์ท ที่พักเป็นโดม แยกเป็นหลัง ๆ ห้องกว้าง ห้องน้ำสะอาด ที่พักที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติและกิจกรรมต่าง ๆ ให้ผู้เข้าพักสามารถทำกิจกรรม ในวันพักผ่อน ได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น การปั่นจักรยาน, พายเรือ, สระว่ายน้ำ, ตกปลา, บ่อน้ำร้อนออนเซ็น และการตั้งแคมป์  ฯลฯ

นอกจากนี้ภายในรีสอร์ทยังมีที่สำหรับให้สุนัขได้เข้ามาร่วมพักอีกด้วยค่ะ ความเก๋ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ มีไลน์อาหาร บุฟเฟ่ต์สำหรับสุนัขแยกเอาไว้ให้อีกด้วยค่ะ

การเดินทาง : นั่งรถไฟลงที่สถานี Shin - Shirakawa Station  แล้วนั่ง Free Shuttle bus มาถึงรีสอร์ทใช้เวลา 30 นาที

• จากสถานี Koriyama นั่งรถไฟสาย Tohoku line ใช้เวลา 39 นาที ค่ารถไฟ 760 เยน
• จากสถานี Tokyo นั่งรถไฟชินคังเซน ใช้เวลา10 – 1.20 ชม. ค่ารถไฟ 6,670 เยน

พิกัดจาก Google map : 37.230912, 140.056718

เว็บไซต์ : http://www.ang-f-ns.com/

6.British Hills สถานที่ถ่ายทำละครญี่ปุ่นของเมือง TENEI

 หนึ่งสถานที่ในจังหวัดฟุกุชิม่า ที่ได้รับความนิยมอย่างมากของคนญี่ปุ่น เพราะมีการตกแต่ง เป็นสไตล์อังกฤษและยังได้เป็นฉากหนึ่งในละครของญี่ปุ่นเรื่อง Hanayori dango ( 花より男子) ที่มีนักแสดงนำอย่าง Jun Matsumoto แห่งวงอาราชิก็ได้มาถ่ายทำฉากสำคัญที่นี่ด้วยค่ะ

สำหรับ British Hills เป็นพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจมีการแสดงเครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ที่นำเข้าจาก อังกฤษที่ผ่านการใช้งานจริง ๆ หากใครสนใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของอังกฤษ และญี่ปุ่นในยุคก่อน ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีสถาปัตยกรรมที่สวย งดงามน่าชื่นชมทีเดียวค่ะ และนอกจากนี้ยังเป็นโรงแรมที่พัก และให้เช่าเป็นสถานที่จัดงานแต่งงาน ที่คนญี่ปุ่นนิยม กันอีกด้วยค่ะ

กำแพงตกแต่งด้วยไม้ ดีไซน์เหมือนโบถส์คาทอลิก โดยไม้ที่ใช้คือไม้มะฮอกกานี นำเข้ามาจาก ประเทศอังกฤษ

ตรงบันไดทางขึ้นไปยังที่พักชั้นสอง จะมีรูปปั้นเหมือนนก ดีไซน์มาจากเวลล์ ซึ่งมีความเชื่อว่านก จะปกปักษ์รักษา และ คุ้มครองคนที่อยู่ภายในอาคารให้ปลอดภัยจากสิ่งชั่วร้าย

พรมวงกลมที่อยู่บนชั้นสองนั้นมีอายุกว่า 23 ปี โดยในเวลาในการทอนานกว่า 4 ปี และใช้คนในการทำ 4 คนมีมูลค่ากว่า 10 ล้านเยน

ห้องอาหารมีการสร้างโดยได้แรงบันดาลใจมากจากห้องอาหารของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ด้วยค่ะ

เว็บไซต์ : http://www.british-hills.co.jp/

7.FUKUSHIMA AIRPORT สนามบินของอุลตร้าแมน

สนามบินฟุกุชิม่าเป็นสนามบินที่มีพื้นที่สูงเป็นอันดับที่สองรองจาก สนามบินมัตสึโมโตะ จังหวัดนากาโนะ ในหนึ่งวันจะมีเที่ยวบินภายในประเทศจำนวน 10 เที่ยวบิน นอกเหนือจากนี้ก็จะมีเครื่องบินส่วนตัวที่สามารถมาขอ ลงจอดได้อีกด้วย และนอกจากนี้สนามบินฟุกุชิม่า ยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่แฟนคลับของอุลตร้าแมนต้องไม่พลาด เป็นอย่างยิ่งค่ะเพราะเนื่องมาจากเมือง  Sukagawa เป็นบ้านเกิดของผู้สร้างอุลตร้าแมน Mr.Tuburaya Eiji ดังนั้น เพื่อสร้างเรื่องราวให้น่าสนใจ และเป็นที่จดจำของผู้มาเยี่ยมเยือนเมือง Sukagawa ในจังหวัดฟุกุชิม่า ก็เลยได้มีการน้ำอุลตร้าแมนมาเป็นสัญลักษณ์ของเมือง และนำมาตกแต่งสนามบินด้วยธีมอุลตร้าแมนนั่นเองค่ะ

ในส่วนด้านบนของสนามบินก็สามารถออกมาชมวิวได้ด้วยค่ะ และยังมีโซนของฝากที่ให้ได้เลือกซื้อติดไม้ติดมือกัน ก่อนกลับ แน่นอนค่ะ สินค้าลิมิเต็ดสำหรับอุลตร้าแมนต้องมีแน่นอนอย่าลืมไปช้อปกันนะคะและความเด็ด ที่นอกเหนือจากรูปปั้นอุลตร้าแมนที่ประดับยังจุดต่าง ๆ ภายในและภายนอกสนามบินแล้ว ยังมีตู้ไปรษณีย์ แห่งเดียวในโลกและในญี่ปุ่น ที่เมื่อส่งไปรษณีย์ออกจากตู้นี้ก็จะได้รับตราประทับไปรษณีย์ รูปอุลตร้าแมน เป็นที่ระลึกกันอีกด้วยค่ะ

การเดินทางจากสนามบินเข้าตัวเมือง Koriyama ใช้รถบัสได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งค่าโดยสารผู้ใหญ่อยู่ที่ 1,100¥ และเด็กค่าโดยสารคือ 550¥ ใช้เวลาประมาณ 35 นาทีค่ะ

เว็บไซต์ : http://www.fks-ab.co.jp/access_en/limousine.php

8.Furudono Hachiman Shrine และ Yabusame Festival – FURUDONO

เป็นความโชคดีที่ได้มาเยือนเมือง Furudono ในช่วงที่มีงานเทศกาล Yabusame พอดิบพอดี ซึ่งจะจัดเป็นประจำทุกปีในช่วงสัปดาห์ที่สองของเดือนตุลาคม สำหรับเทศกาล Yabusame มีจุดเริ่มต้นมา 800 กว่าปี โดยต้นกำเนิดอยู่ที่เมือง Kamakura และสมัยก่อนเริ่มจากการเป็นกีฬา ของเหล่านักรบชนชั้นสูง ของญี่ปุ่น โดยเป็นการผสมการขี่ม้า เเละ การยิงธนู เข้ามาไว้ด้วยกัน นับว่าเป็นการฝึกซ้อมสำหรับการต่อสู้ในระยะไกลไปในตัวของซามูไร นั่นเองค่ะ

Yabusame เลยกลายเป็นทั้งประเพณี วัฒนธรรม เเละพิธีกรรม ที่เเสดงออกถึงจิตวิญญาณ ของเหล่านักรบชนชั้นซามูไรที่มีมาเนิ่นนานเเล้ว เเละในปัจจุบันนั้น ก็ได้กลายสภาพมาเป็นพิธีกรรม อันศักดิ์สิทธิ์ ที่จะกระทำกันในพื้นที่ของศาลเจ้า หรือวัดในศาสนาชินโต ซึ่งเป็นศาสนาดั้งเดิม ของชาวญี่ปุ่นค่ะ

สำหรับงานจัดที่บริเวณหน้าศาลเจ้า Furudono Hachiman Shrine ศาลเจ้าเก่าแก่ประจำเมือง Furudono ที่มีอายุอานามกว่า 390 ปี หน้าศาลเจ้าจะมีรูปปั้นหินลักษณะเหมือนสิงโตและสุนัข ที่ทำหน้าที่พิทักษ์ ปกป้อง ศาลเจ้าจากสิ่งชั่วร้ายและ ภยันตรายทั้งหลายให้เข้าไปยังศาลเจ้าไม่ได้

พิกัดจาก Google map : 37.097990, 140.565672

เว็บไซต์ : https://www.ntt-east.co.jp/fukushima/fbrari/022/02.html

หวังว่าบทความนี้คงจะเป็นประโยชน์ในการเที่ยวญี่ปุ่นในครั้งต่อ ๆ ไปนะคะ จังหวัด Fukushima เป็นอีกหนึ่ง จังหวัดที่น่าไปและตอนนี้ก็พร้อมที่จะให้บริการนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติทั่วโลก โดยขอให้มั่นใจว่า ทุกอย่างปลอดภัยแน่นอนค่ะ และหวังว่าเพื่อน ๆ ก็คงจะสนุก และเที่ยวญี่ปุ่นในมุมมองที่แตกต่างออกไปจากเดิม เที่ยวญี่ปุ่นแบบคนญี่ปุ่น Local รู้เรารู้ !