ตามหาใบไม้สีแดง เสน่ห์ของฤดูใบไม้ร่วงแห่งเกียวโต

7,997

ช่วงนี้หนังแฟรนไชส์ แฮรี่ พอตเตอร์ อย่างเรื่อง Fantastic beasts and where to find them กำลังเข้าโรง เลยขอจับมาเป็น theme เขียนเรื่องตามหาใบไม้แดงที่เกียวโตกันบ้าง เอาจริงๆ แล้วเกียวโต มองไปทางไหนก็สวย แด๊งแดง แดงไปหมด แพลนเที่ยวสามวันยังไม่รู้จะเก็บครบรึเปล่าเลย ลองมาดูกันว่า มีที่ไหนน่าสนใจกันบ้าง

เริ่มที่การเดินทางกันเลยดีกว่า ส่วนมากตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ในเกียวโต สามารถเดินทางด้วยรถบัสได้ทั้งหมดเลย แนะนำให้ซื้อเป็นบัตร Kyoto Bus One-day Pass ไปเลย เพราะว่า ขึ้นบัสทีนึงก็ครั้งละ 230 เยนแล้ว บัตรนี้ใบละ 500 เยนเท่านั้นเอง คุ้มมากๆ ถามว่าซื้อที่ไหน จะซื้อที่ Tourist information ก็ได้ บัตรนี้จะซื้อแล้วเก็บไว้ก่อน ยังไม่ใช้ก็ได้ พอใช้เที่ยวแรก วันที่ก็จะถูกปรินท์ติดไว้บนบัตรนั่นเอง หรือถ้าหากใครซื้อไม่ทันจะไปซื้อบนบัสเลยก็ได้ ตอนที่จะลงก็บอกคนขับแล้วจ่ายเงินตรงนั้นเลยสะดวกมากๆ พอหนถัดไปก็แค่โชว์วันที่บนบัตรให้คนขับดูก่อนลงจากรถเท่านั้นเอง

01

พร้อมแล้วก็เริ่มเดินทางกันเลย

Kiyomizudera

Kiyomizudera หรือที่คนไทยคุ้นปากกันว่า วัดน้ำใส ถูกจัดอยู่ใน World heritage จาก UNESCO ซึ่งใครที่มาเกียวโตก็ต้องห้ามพลาด กับจุดถ่ายรูปมุมมหาชนเวลาทำการ : ที่นี่เปิดตั้งแต่ 6 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น แต่ช่วงนี้ (ถึงวันที่ 4 ธ.ค.) มีการเปิด light up ตั้งแต่ 17.30-21.00 เลยทีเดียว ใครแพลนมา กะเวลากันให้ดีๆ เน้อการเดินทาง : จากสถานีเกียวโตโดยบัสสาย 100 หรือ 206 มาลงที่ Gojo-zaka หรือ Kiyomizu แล้วเดินต่ออีกประมาณ 10 นาทีค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 300 เยน เด็ก 200-300 เยน

02

030405

วัด Eikando

ส่วนตัวมีโอกาสได้ไปดู light up แค่ที่นี่ที่เดียว พอไปถึงปรากฏว่าคิวเข้าวัดยาวมาก เกือบจะถอดใจไปแล้ว แต่มีเวลาแค่นี้ เลยลองต่อคิวไปก่อน ปรากฏว่าเอาเข้าจริงๆแล้วก็รอไม่นาน แถวขยับได้เรื่อยๆ และเข้าไปแล้วก็ได้ภาพที่นับว่า คุ้มค่าที่มาจริงๆ ชอบที่สุดในทริปก็ภาพ light up ที่นี่แหละ (Light up มีตั้งแต่วันนี้ถึง 5 ธ.ค. นะ)เวลาทำการ : เปิด 9.00-17.00 หลังจากนั้นเป็นช่วง light up 17.30-20.30การเดินทาง : จากสถานีเกียวโต นั่งบัสหมายเลข 5 มาลงที่ Nanzeji-Eikano-michiค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 600 เยน (พ.ย. 1000 เยน) เด็ก 400 เยน (พ.ย. 600 เยน) ตอนกลางคืนช่วง light up 600 เยน

06

07

08

09

10

วัด Tenryu-ji

วัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในย่าน Arashiyama และยังจัดเป็น World heritage อีกด้วย ที่นี่อยู่ใกล้กับป่าไผ่อาราชิยามาซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมอีกจุดนึงเช่นกันสามารถนำเข้ามาใส่ในแพลนได้ไม่ยาก เพราะจากป่าไผ่ สามารถเดินเข้ามาเจอทางเข้าวัดได้เลยเวลาทำการ : เปิด 8.30-17.30 น.การเดินทาง : จากสถานีเกียวโต เดินทางโดย JR มาลงที่สถานี JR Saga arashiyama station แล้วเดินต่ออีกนิดหน่อยค่าเข้า : 500 เยน

11

12

131415

ขบวนรถไฟสายโรแมนติก Sakano Torokko

จากที่นี่เราจะได้นั่งรถไฟสายโรแมนติกจาก Arashiyama ไปถึง Kameoka โดยจะได้ชมวิวของแม่น้ำ Hozukawa เบื้องล่างตัดกับใบไม้เปลี่ยนสี นอกจากนี้จะได้ทักทายกับนักท่องเที่ยวที่นั่งเรือล่องแม่น้ำด้านล่างเป็นระยะอีกด้วย ที่นี่ผมตัดสินใจมาเข้าคิวจองตั๋วแต่เช้า แต่เนื่องจากว่าเป็นช่วงพีค คิวรถไฟตอนเช้าจะเต็มเร็วมาก จึงเปลี่ยนแผน ไปจองตั๋วรถรอบบ่ายแทน ที่นี่เราไม่จำเป็นต้องมาขึ้นรถไฟตั้งแต่ต้นสาย ดังนั้นแล้วเราจึงแพลนไปเที่ยวป่าไผ่ วัด Tenryu-ji ก่อน ทานอาหารเที่ยงแล้วไปขึ้นรถไฟที่สถานี Torokko arashiyama แทน แนะนำว่าให้เลือกตู้รถไฟเบอร์ 5 เพราะเป็นตู้เดียวที่เป็น open airเวลาทำการ : เปิด 9.00-16.00 ปิดวันพุธ ยกเว้นวันหยุดราชการ โชคดีมากที่ไปตรงกับวันพุธที่เป็นวันหยุดราชการ ไม่งั้นนี่อดเลยการเดินทาง : นั่ง JR จากสถานีโตเกียว มาลงที่สถานี Saga Arashiyamaค่าตั๋วรถไฟ : 620 เยน สำหรับโดยสารขาเดียวจาก Torokko Saga ถึง Torokko Kameoga

16

17

18

ก็เป็นตัวอย่างจุดท่องเที่ยวยอดนิยมไม่กี่ที่จากหลายๆแห่งในเกียวโต คาดว่าทุกคนก็มีแพลนแตกต่างกัน อยู่ที่เวลา แผนการเดินทางของแต่ละคน โพสท์นี้ก็เป็นแค่การถ่ายทอดการเดินทางจุดชมใบไม้แดงของผมเท่านั้นเอง เพราะเชื่อว่าเอาเข้าจริงๆ ทุกคนคงไม่ลืมที่จะไปแวะวัดเงิน วัดทอง ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ ป่าไผ่ และอื่นๆอีกมากมายอย่างแน่นอน อย่างไรก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับใครที่กำลังวางแผนมาเที่ยวนะครับ ^^

doctor-tong