เราเชื่อว่าร้อยละ 90 ของคนที่ไปญี่ปุ่นต้องเคยไป Tokyo มาแล้ว บางคนไปเป็นสิบยี่สิบรอบ บางคนรู้จักเมืองหลวงแห่งนี้ดีมากจนอาจหลับตาเดินได้ แต่ถ้าเป็นสภาพบ้านเมืองใน Tokyo ยุคก่อนล่ะ คงมีน้อยคนจริงๆที่จะนึกภาพออก แต่เรามีสถานที่หนึ่งที่จะทำให้คุณมองภาพ Tokyo ในอดีตได้แจ่มชัดขึ้น
กรุง Tokyo เมื่อหลายร้อยปีก่อน มีชื่อว่า Edo อันน่าจะหมายถึงเมืองท่า หลังจากการย้ายเมืองหลวงจาก Heian Kyo หรือ Kyoto มายัง Edo ในสมัยสมเด็จพระจักรพรรดิ Meiji พระองค์ทรงเปลี่ยนชื่อเมืองแห่งนี้เสียใหม่ให้เป็น Tokyo ซึ่งความว่า "เมืองหลวงทางตะวันออก" และได้มีการสมโภชน์กรุงอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 1899 จากนั้น ตั้งแต่ยุคปฏิรูป Meiji เป็นต้นมา กรุง Tokyo ก็เปลี่ยนโฉมหน้าไปตามเข็มนาฬิกาที่หมุนไปอย่างรวดเร็วเพื่อให้เข้ากับจังหวะการเปลี่ยนแปลงของเมืองหลวงต่างๆทั่วโลก การมองภาพ Tokyo ในยุคเก่านั้นจึงอาจต้องพึ่งพา พิพิธภัณฑ์ Edo-Tokyo ที่เป็นเหมือนไทม์แมชชีนที่พาเราย้อนกลับไปยังอดีต
พิพิธภัณฑ์ Edo-Tokyo ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำ Sumida ติดๆกับ Ryogoku Kokugikan ลานประลองซูโม่ที่ยิ่งใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นในเขต Yokoami ที่นี่เป็นแหล่งรวบรวมงานสถาปัตยกรรมโบราณตั้งแต่ยุค Edo เรื่อยมาจนถึงยุคใกล้ๆปัจจุบันและที่นี่เป็นแหล่งศึกษาศิลปวัฒนธรรม ชีวิตความเป็นอยู่ของชาว Edo ได้อย่างดีเยี่ยม
เมื่อเข้ามาในพิพิธภัณฑ์ Edo-Tokyo สิ่งแรกที่สะดุดตาที่สุดคือสะพาน Nihonbashi ที่สร้างจำลองขึ้นตามขนาดจริง ย่าน Nihonbashi นั้นถือได้ว่าเป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ Nihonbashi ยังถือเป็นหลักกิโลเมตรที่ 0 ของกรุง Tokyo อีกด้วย แม้ว่าปัจจุบันสะพาน Nihonbashi เป็นอิฐเป็นปูนไปหมดแล้วแต่เราก็ยังสามารถชมงานสะพานที่เป็นงานไม้ได้จากที่นี่ (และอีกที่หนึ่งที่มีสะพาน Nihonbashi จำลองคือบริเวณชั้น 4 -5 ที่สนามบิน Haneda ที่สร้างแค่ครึ่งเดียวและย่อขนาดให้เล็กลงมา 1 เท่าตัว)
เมื่อข้ามสะพาน Nihonbashi มาเราจะเข้ามาในเขตเมืองจำลองขนาดเล็กในสมัย Edo ที่จำลองสถาปัตยกรรมบ้านเมืองและวิถีชีวิตของชาว Edo เอาไว้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้าน ร้านค้า ตลาด พระราชวัง ซึ่งที่กิ๊บเก๋ยูเรก้าฮานามิที่สุด มันคือกล้องส่องทางไกลที่จัดเตรียมไว้ให้เราได้ส่องดูรายละเอียดต่างๆของผู้คนในชุมชนได้อย่างใกล้ชิดและชัดเจน
ลงมาชั้นล่างจะมีจุดน่าสนใจอยู่หลายจุด เริ่มด้วยโรงละคร Kabuki โบราณ
ที่ภายในโรงละครมีการจัดแสดงหุ่นจำลองการแสดง Kabuki เอาไว้ให้ผู้คนได้ซึมซับวัฒนธรรมและศิลปะการแสดงชั้นสูงของญี่ปุ่นที่ยังตกทอดยาวนานมาถึงลูกหลานในปัจจุบัน
ที่ชั้นล่างบางส่วนถูกแบ่งพื้นที่ออกเป็น Tokyo Zone เน้นสถาปัตยกรรมในยุค 1900 ต้นๆที่เริ่มรับอิทธิพลมาจากชาติตะวันตกอย่างชัดเจน บางส่วนจัดแสดงพื้นที่และอุปกรณ์ใช้สอยภายในบ้านของคน Tokyo ในยุค 60-70 ให้เราได้นึกภาพออกว่าผู้คนมีความเป็นอยู่กันอย่างไร
และยังมีพื้นที่ที่จัดแสดงถึงยุคหลังสงครามโลกที่ญี่ปุ่นพึ่งเริ่มฟื้นตัวและผลักดันตัวเองเข้าสู่อุตสาหกรรมหนักที่สำคัญอย่างการผลิตรถยนต์ที่ป้อนเข้าสู่ตลาดโลกจนทำให้ญี่ปุ่นเป็นชาติที่เป็นหมายเลขหนึ่งในอุตสาหกรรมยานยนตร์ในยุคปัจจุบัน
เมื่อใช้เวลาซึมซับเสน่ห์แห่ง Edo จนจุใจแล้ว ที่ด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์ยังมีร้านขายของที่ระลึกเอาไว้บริการด้วยนะ
การเดินทาง สามารถนั่งรถไฟ JR Sobu มาลงที่สถานี Ryogoku แล้วเดินออกตรง West exit หรือนั่งรถไฟใต้ดิน Toei Oedo แล้วลงที่ สถานี Ryogoku แล้วเดินออกมาจากทางออก A3 พิพิธภัณฑ์ Edo-Tokyo เปิด เก้าโมงครึ่งปิดห้าโมงเย็น (เฉพาะวันเสาร์ปิดทุ่มครึ่งแน่ะ) ที่นี่ปิดทุกวันจันทร์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และมีค่าเข้าชมท่านละ 600 เยน ควรมีสักสองชั่วโมงถึงครึ่งวันเป็นอย่างต่ำในการเก็บเอารายละเอียดและบรรยากาศที่มีอยู่อย่างล้นเหลือในพิพิธภัณฑ์ Edo-Tokyo แห่งนี้