ตอนวางแผนไปญี่ปุ่นคราวที่แล้ว ยังมีเทศกาลประจำปีของศาลเจ้าแห่งหนึ่งที่เราคิดว่ายังไงก็ต้องไปดูให้ได้เทศกาลนั้นคือ Bunkyo Tsutsuji Matsuri แห่งศาลเจ้า Nezu ในกรุง Tokyo เทศกาลแห่งดอก Azalea ในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกๆปี
แต่เดี๋ยวก่อน.....ถ้าคุณเชื่อเรื่องที่พึ่งเล่าไปเมื่อตะกี๊เราขอบอกว่ามันเป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้น5555 เอ้าๆๆ เลิกสตั๊นกันได้แล้ว คือจริงๆแล้วเราอ่ะ แค่ตั้งใจจะไปศาลเจ้า Nezu เฉยๆแต่ดันไปเจอเทศกาลประจำปีแบบฟลุ้คฝุดๆ นี่ไม่ได้รู้ด้วยซ้ำว่าช่วงที่เราไปมันจะมีเทศกาลนี้ เสน่ห์ของในการเดินทางก็คือในบางครั้งเราก็เจออะไรที่ไม่ได้คาดคิดบ้าง เอาล่ะต่อจากนี้จะเป็นเรื่องจริง จริงๆซะที
ศาลเจ้า Nezu (Nezu-jinja) ตั้งอยู่ในเขต Bunkyo ใกล้ๆกับสวน Ueno นั่งรถไฟใต้ดินแพร้บเดียวก็ถึง นอกจากเป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งใน Tokyo แล้ว ที่นี่ยังเป็นศาลเจ้าที่มีเสน่ห์อย่างมากในเรื่องการออกแบบภูมิสถาปัตย์ เนื่องจากที่ศาลเจ้า Nezu มีสวนดอกไม้และต้นไม้เขียวขจีแถมยังมีบ่อน้ำมี่เลี้ยงปลาคาร์พอีก แต่ก่อนหน้าที่เราจะเดินทางไปถึงศาลเจ้า Nezu เราก็พบขบวนแห่ที่ไม่ได้คิดว่าจะเจอระหว่างทาง แน่นอนว่าตอนนั้นไม่ได้รู้เรื่องว่าเขาแห่อะไร มีความเกี่ยวข้องกับศาลเจ้ายังไง แค่เห็นความสนุกสนานในขบวนอยู่ดีๆเราก็วิ่งข้ามถนนไปดักถ่ายรูปผู้คนในขบวนแห่แบบไม่รู้ตัวแล้ว
ผู้คนนับร้อยในขบวนเคลื่อนผ่านไป เราก็ปรับหมุดหมายกลับไปที่ศาลเจ้า Nezu อีกครั้ง จากถนนใหญ่เดินเข้าไปในซอยที่มีนักท่องเที่ยวคึกคักหนาตามาก.....ยังไม่เอะใจว่าที่นี่มีงานทั้งๆที่มันดูคึกคักไปทั้งซอยนะ ทั้งพ่อค้าลูกค้าขายอาหารของที่ระลึก ยิ่งใกล้ประตูศาลเจ้าคนยิ่งเยอะ พอมาถึงแถวประตูศาลเจ้าก็เริ่มฉุกคิดได้ว่าศาลเจ้าน่าจะมีงานแล้วหละเพราะมีคนสวมชุด Yukata มาคอยยืนประกาศออกโทรโข่งและแจกเอกสารอยู่หน้าศาลเจ้า
เดินเข้าไปตามทางที่ปูด้วยแผ่นหิน เลยจากประตูทางเข้ามีสะพานข้ามคูน้ำตรงไปยัง Romon ประตูศาลเจ้าชั้นที่สองซึ่งเป็นประตูศาลเจ้าที่ได้รับรูปแบบการก่อสร้างมาจากวัดพุทธในญี่ปุ่น คงจะดีกว่านี้มากถ้าคนจะน้อยกว่านี้เพราะมองไปตรงไหนก็มีแต่คนๆๆเต็มไปหมดไม่ว่าจะเป็นร้านค้า อาหาร ของที่ระลึก นักท่องเที่ยว มันรู้สึกอบอุ่นเกิน
เราเดินเลี่ยงไปทางด้านข้างของศาลเจ้าที่ส่วนหนึ่งกั้นไว้เป้นพื้นที่สวนดอกไม้ที่มีอายุถึง 300 ปีและที่ศาลเจ้าก็จัดเทศกาลชมดอก Azalea ในฤดูใบไม้ผลิโดยเปิดให้เข้าชมสวนและเก็บเงินค่าเข้าชมคนละ 200 เยนด้วย ถัดจากสวน Azalea มีเสา Torii แบบเดียวกับที่ Fushimi Inari Taisha ใน Kyoto แต่ต้นเล็กและสูงพอแค่ให้คนเดินลอดได้แบบไม่ต้องก้มหัวตั้งเรียงแถวเป็นแนวลึกขึ้นไปบนเนินที่นำไปยังศาลเจ้า Otome Inari ศาลเจ้าจิ้งจอกเล็กๆที่อยู่ด้านบน
แต่ถ้าเราเปลี่ยนทางเดินไม่เข้ามาทางสวนดอกไม้หรือลอดเสา Torii แต่เลือกเดินจากสะพานข้ามคูน้ำลอดใต้ประตู Romon แล้วเดินมุ่งตรงไปอีกหน่อยจะเข้าเขตของ Honden ศาลเจ้าชั้นในที่ล้อมรอบไปด้วยกำแพง Sukibei ตรงศาลาศาลเจ้าหลักนี่มีคนต่อแถวเพื่อรอสักการะศาลเจ้าเป็นแถวเรียงสองยาวล้นออกมานอกประตู Karamon มี่สร้างอยู่บนแนวเดียวกับกำแพง
ว่ากันว่าศาลเจ้า Nezu นั้นมีความศักดิ์สิทธิ์มากหากจะมาอธิษฐานขอเรื่องความรักให้สมหวัง ดูจากคนที่ต่อแถวล้นออกมาด้านนอกแนวกำแพงศาลเจ้าชั้นในแล้วพอจะสรุปได้ว่าที่นี่น่าจะศักดิ์สิทธิ์จริงจัง ไม่อย่างนั้นคนคงไม่ล้นทะลักออกมาล้านเจ็ดสิบเอ็ดแสนอย่างนี้
ขณะที่เรากำลังมองดูคนต่อแถวเข้าสักการะศาลเจ้าชั้นใน เราก็ได้ยินเสียงของขบวนผู้คนจำนวนมากอยู่นอกกำแพง ตัดสินใจเดินออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะไม่มีท่าทีของผู้คนแตกตื่น และเราก็พบชาวคณะที่เจอกันตอนแรกบนถนนใหญ่ทั้งผู้ชายผู้หญิงที่ผลัดกันควงคทาไม้ที่ประดัยด้วยริ้วผ้าโบกสะบัดไปมาอย่างสนุกสนาน
ขณะที่พื้นที่ด้านข้างศาลเจ้าชั้นในก็มีการแสดงตีกลอง Taiko จากคณะนักแสดงหญิงทั้งหมด การแสดงแบ่งเป็น 3- 4 ช่วงแต่ใช้นักแสดงอยู่ชุดเดียวโดยสลับตำแหน่งตีกลองไปมา ถึงเราจะเคยเห็นการตีกลอง Taiko ของคนไทยมาก่อนซึ่ง beat การตีกลองก็น่าจะเหมือนๆกันทั้งดึงจังหวะช้าเร็ววิ่งสลับกันตี แต่เรากับรู้สึกว่า Taiko เจ้านี้ดูสนุกกว่าที่เคยดูๆมา จะเป็นเพราะคนญี่ปุ่นมาเล่นให้ดูเอง หรืออาจเป็นเพราะนั่งอยู่ใกล้มาก หรือทั้งสองอย่าง
เราใช้เวลาเพลิดเพลินอยู่ที่นี่สามชั่วโมงเต็มๆ จากที่ตอนแรกคิดว่าน่าจะแวะมาไม่เกินสองชั่วโมง คงเป็นเพราะโชคชะตาที่นำพาลุงป้าผู้ไม่รู้อิโห่อิเหน่เดินหลงเข้ามาในงานเทศกาลประจำปีของศาลเจ้า แถมขากลับเรายังได้กระเป๋าสะพาย Anello มือสองของแท้ที่ยังดูใหม่มากจากตลาดนัดใกล้ๆศาลเจ้าในราคา 800 เยน แม่เจ้า 240 บาทจ้ะม่ะค่ะ คนขายก็ใจดีเพราะจะนำกำไรไปช่วยเหล่าแมวจรเจ้าถิ่นแถบศาลเจ้านั่นแหละ แม่ค้ามีความสุขเราก็มีความสุขบนความฟลุ้คครั้งที่สองในรอบวัน
การเดินทางมาศาลเจ้า Nezu สามารถมาได้หลายทาง ถ้านั่งรถไฟใต้ดินสาย Chiyoda ให้ลงที่สถานี Nezu ทางออกหมายเลย 1 แล้วเดินต่ออีก 5 นาที หรือจะนั่งรถไฟใต้ดินสาย Namboku ทางออกหมายเลข 2 แล้วเดินต่ออีก 6 นาที โอ้....ลืมแจ้งเรื่องงาน Bunkyo Tsutsuji Matsuri จัดขึ้นต้นเดือน เมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี วันที่เริ่มและสิ้นสุดไม่ได้กำหนดแน่นอน แต่เท่าที่ทราบงานเริ่มไม่เคยเกินวันที่ 10 เมษายน ครับ