5 สถานที่เช็คอินสุดแนว คูลไม่ซ้ำใครที่จังหวัด @Fukushima

เพื่อนๆ เคยได้ชื่อจังหวัดฟุคุชิมะ (Fukushima) กันหรือไม่คะ แอดมินเชื่อว่าจังหวัดนี้เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่คนไทยคงคุ้นหูกันดี สืบเนื่องมาจากข่าวสึนามิครั้งใหญ่เมื่อหลายปีก่อน แต่ว่าตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมานานหลายปีแล้วนะคะ จังหวัดที่เคยได้รับผลกระทบอย่างมากมาย เสียหายไปจากภัยธรรมชาติในครั้งนั้น ตอนนี้ได้ฟื้นฟูตัวเองและกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหนึ่ง พร้อมที่จะให้เพื่อนๆ ทุกคนเดินทางไปท่องเที่ยว เก็บประสบการณ์ดีๆ ที่สามารถหาได้ระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว การไปเที่ยวฟูคุชิมะนั้นนอกจากพวกเราจะได้ท่องเที่ยวแล้ว ในขณะเดียวกันเรายังได้ช่วยเหลือผู้คนในท้องถิ่นให้เกิดการกระจายรายได้อีกด้วยนะคะ

ไปดูกันค่ะว่าจังหวัดนี้มีที่ท่องเที่ยวไหนที่ชิคๆ คูลๆ เหมาะแก่การไปเช็คอินของเราบ้าง ตามมาอ่านกันได้เลยค่ะ

Check in #1 ชมดอกไม้ ต้นไม้นานาพันธุ์ สวยเต็มตาเต็มภูเขาที่ @Hanamiyama"ซื้อภูเขาเป็นลูกๆ แล้วปลูกต้นไม้และดอกไม้สวยๆ ให้คนเข้าดูฟรีๆ สาเหตุที่ทำอย่างนี้เพราะว่าอยากให้ทุกคนมีความสุข มีรอยยิ้มกลับไป" ว้าว...เป็นความคิดที่ดีมากๆ เลยใช่มั้ยคะ และนี่ก็คือความคิดของคุณอาเบะ ที่ทำให้เกิดสวนสาธารณะแบบเปิด ที่ใครๆ ก็สามารถเดินเข้ามาได้

สาเหตุที่บุคคลสามารถซื้อภูเขาได้ก็เพราะว่ากฎหมายที่ประเทศญี่ปุ่นอนุญาตให้บุคคลทั่วไปซื้อภูเขาได้ค่ะ "Mt. Hanamiyama" หรือภูเขาที่มีชื่อว่าฮะนะมิยามะ เป็นพื้นที่ของเอกชนซึ่งเจ้าของพื้นที่มีความคิดว่าต้องการจะปลูกต้นไม้ให้สวยๆ เต็มภูเขาและเมื่อต้นไม้ ดอกไม้ที่อยู่ในสวนบานสะพรั่ง สวยเต็มที่แล้ว ก็รู้สึกว่าอยากจะแบ่งปันให้คนอื่นได้ดูด้วย เพราะหวังว่าการที่คนเราได้มาเห็นดอกไม้ เห็นธรรมชาติที่สวยงามก็จะทำให้ผู้คนเหล่านั้นรู้สึกมีความสุข จึงอนุญาตให้ทุกคนเข้ามาดูดอกไม้ได้อย่างฟรีๆ ไม่คิดค่าเข้าชมแต่อย่างใด โอ๊ย...ใจคุณหล่อมากค่ะ ขอกราบเบญจางคประดิษฐ์สี่ทิศ

นี่ก็เป็นอีกหนึ่่งการแบ่งปันที่น่าชื่นชมนะคะ ทำสิ่งที่เราชอบ แล้วแบ่งปันให้คนอื่น อย่าถามว่าเจ้าของพื้นที่ได้อะไรจากการทำแบบนี้ เรามามองว่าเขาให้อะไรกับใครไปแล้วกี่คนดีกว่า คนกี่ร้อย กี่พันคนต่อวันที่มาที่ภูเขาแห่งนี้แล้วได้รอยยิ้มกลับไป

ในภาพถ่ายเป็นช่วงเดือนเมษายนซึ่งดอกซากุระเพิ่งร่วงโรยไป แต่ว่าในเวลาเดียวกันก็มีดอกนะโนะฮานะ (กวางตุ้ง) ที่มีดอกสีเหลืองๆ ในภาพกำลังเบ่งบาน สวยงาม มีดอกทิวลิปและดอกไม้หลากหลายตามฤดูกาลให้ชมกัน ดังนั้นเพื่อนๆ สามารถแวะมาเที่ยวได้ทั้งปีเลยค่ะ




การเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงที่ Fukushima Station จากนั้นเดินไปที่หน้าสถานี ไปออกไปทางซ้าย สังเกตป้ายชานชลาที่ 6 จะมีรถบัสจอดอยู่ ขึ้นรถบัสนั้นเพื่อไปลงที่ ป้าย Hanamiyama ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีค่ะ (รถบัสออกทุก 30 นาทีแต่สำหรับช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่มีซากุระซึ่งเป็นไฮซีซั่น รถจะออกทุก 15 นาทีค่ะ)

Check in #2 สวนดอกบ๊วยสีชมพู หวานๆ สวยๆ ที่ @HanaMomo no Satoในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น นอกจากจะเป็นฤดูกาลแห่งดอกซากุระแล้ว ก็ยังมีดอกโมะโมะหรือดอกบ๊วยที่จะบานในช่วงเดียวกันให้พวกเราได้ชื่นชมอีกด้วยนะคะ ลักษณะของต้นบ๊วยจะเป็นต้นเตี้ยๆ ไม่สูงใหญ่เหมือนต้นซากุระ มีหลากหลายพันธุ์ซึ่งแต่ละพันธ์ก็จะมีสีที่แตกต่างกันไป ทั้งสีแดง สีชมพูอ่อน สีชมพูแก่และสีขาว
ด้วยความที่เป็นต้นไม้ต้นเตี้ยๆ นี่แหละค่ะ ทำให้เวลาที่เราถ่ายรูปออกมาภาพจะสวยมากๆ เลยนะคะ เพราะว่าช่อของมันก็จะอยู่บริเวณตัวเราพอดีค่ะที่นี่ปลูกบ๊วยเอาไว้ทั้งสายพันธุ์ที่สามารถเก็บผลรับประทานได้และสายพันธุ์ที่มีแต่ดอก สีสวยหวาน เดินถ่ายรูปกันเพลินเลลค่ะ

นอกจากจะเข้าสวนฟรีแล้ว สิ่งที่แอดมินประทับใจมากๆ ก็คือเจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่นี่ยังนำอาหารว่างและน้ำชามาแจกฟรีให้นักท่องเที่ยวได้ชิมกันด้วยนะคะ ใจดีมากๆ เลยค่ะ หรือใครอยากจะอุดหนุนชาวบ้านก็สามารถซื้อเพิ่มเติมได้ค่ะค่าเข้าสวน : ฟรี ไม่เก็บค่าเข้าการเดินทาง : นั่ง Local Train ลงที่ Iizaka Onsen Station จากนั้นให้นั่งรถแท็กซี่ต่อมาใกล้ๆ ค่าแท็กซี่แค่ประมาณ 500 เยนเท่านั้นค่ะ

Check in #3 จุดชมซากุระอันดับ 1 ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น!!ใครรักการชมดอกไม้ คิดว่าการมาเที่ยวฟูคุชิมะในช่วงฤดูใบไม้ผลินี่คือจะได้ชมดอกไม้กันอย่างเต็มอิ่ม จุใจแน่นอน ปรกติแล้วที่จังหวัดฟุคุชิม่านั้นดอกซากุระจะบานช้ากว่าดอกซากุระที่โตเกียว ดอกไม้จะบานเต็มที่ประมาณกลางเมษายนถึงแค่ต้นเดือนพฤษภาคมเท่านั้นค่ะ  จุดแนะนำคือจุดชมดอกซากุระที่สถานี JR Kitakata เมื่อมาถึงถนนเส้นนี้ นักท่องเที่ยวจะได้พบกับถนนคนเดินที่สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นชิดาเระซากุระซึ่งก็คือซากุระพันธุ์ที่มีกิ่งห้อยย้อยลงมา เวลาโดนลมพัดดูสวยมากๆ ซึ่งที่นี่มีซากุระพันธุ์นี้มากกว่า 1,000 ต้น ปลูกริมสองข้างทางเป็นระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร ที่นี่จัดเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากๆในญี่ปุ่นนะคะ ณ ตอนนี้ถูกจัดอันดับให้เป็น 1 ในจุดชมซากุระที่สวยที่สุดในภูมิภาคโทโฮะขุ (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น) นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมดอกไม้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุดและไม่เสียค่าใช้จ่าย สิ่งที่ยากเย็นก็คือเราต้องมาให้ตรงช่วงที่ดอกไม้บานเท่านั้นเอง ซึ่งแอดมินจะบอกว่ามันยากมากๆ เลยค่ะ ณ จุดนี้

วิธีเดินทาง จากสถานีฟุคุชิม่า นั่งรถไฟมาลงที่สถานี JR Kitakata เดินต่อมาอีก 1 นาทีก็จะถึงถนนนี้แล้วค่ะ

Check in #4 ชมบ้านคหบดีเก่า บ่ออาบน้ำสาธารณะที่ยังคงใช้งานอยู่และแช่ออนเซนเท้าที่ Kyu Horikiri Teiการได้เดินชมบ้านเก่าของคหบดีทำให้รู้สึกว่าได้ย้อนเวลาไปในสมัยอดีต อาคารที่ยังคงสภาพดีแทบไม่น่าเชื่อว่าเป็นอาคารเก่าสมัยเอโดะ อาคารถูกสร้างไว้โดยมีมีหลายอาคารติดกัน สภาพภายนอกและภายในยังดูเหมือนใหม่มากๆ ปัจจุบันเปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 9:00-21:00 น. 

พอเข้ามาก็จะเจอคุณลุงพนักงานใจดีคอยให้คำบรรยายว่าแต่ละห้องมีความเป็นมาอย่างไร บางห้องเป็นห้องสำหรับเลี้ยงรับรองแขก บางห้องเป็นห้องพักของคนในครอบครัว มีห้องเก็บสิ่งของมีค่าซึ่งประตูทำด้วยดินเพื่อที่ให้ทนความร้อนจากไฟได้นั่นเอง ไม่ติดไฟลุกง่ายๆ เหมือนห้องอื่นๆ ที่ทำจากไม้และกระดาษ

เมื่อเดินชมบ้านกันจนสมควรแก่เวลา พวกเราก็มานั่งแช่เท้าซึ่งมีให้เลือกทั้งออนเซนเท้า ออนเซนมือ นักท่องเที่ยวสามารถมานั่งพักผ่อนได้สบายๆ ใช้ออนเซนมือและเท้าได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ค่ะ

เมื่อเดินออกมาด้านนอกก็ยังได้พบกับเซนโตหรือโรงอาบน้ำสาธารณะของคนในชุมชน ซึ่งเป็นโรงอาบน้ำที่ใช้กันมาเป็นเวลายาวนาน ปัจจุบันก็ยังให้บริการอยู่ นอกจากออนเซน เซนโตก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์การอาบน้ำกับคนแปลกหน้าที่ญี่ปุ่นนะคะ ใครสนใจ ลองอาบกันได้ ^^

การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Fukushima Kotsu Izaka Line จากสถานี Fukushima Station แล้วลงรถไฟที่สถานี Izaka Onsen จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 5 นาทีค่ะ

Check in #5 นั่งกระเช้ามาเล่นสกีที่ Grandeco Snow Resortช่วงฤดูใบไม้ผลิเดือนเมษายนที่ญี่ปุ่นอากาศกำลังเย็นสบายในขณะที่เมืองไทยอากาศกำลังร้อนสุดๆ อีกหนึ่งทางเลือกคือหนีร้อนมาเล่นสกีที่ Fukushima กันเถอะ!! เก็บข้อมูลกันไว้ได้นะคะ เผื่อใครอยากจะมาเที่ยวภูมิภาค Tohoku (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น) แล้วอยากลองสัมผัสหิมะดูสักครั้ง อยากเล่นกีฬาฤดูหนาว แนะนำที่นี่เลยค่ะ "Grandeco Snow Resort" สนุกมากๆ เริ่มจากนั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาที่เป็นสกีรีสอร์ท ใครกลัวความสูงก็ทำใจกล้าๆ นิดนึง เพราะว่าพอขึ้นไปแล้วความสนุกมันคุ้มค่าที่เราหลับตาปี๋แต่ดั้นด้นขึ้นไปนะคะ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นสกี ลากเลื่อน หรือสโนว์บอร์ด รับรองว่าทุกคนจะได้ความสนุกพร้อมความประทับใจกลับไปแน่นอนค่ะ  แต่ถ้าอยากจะมาเล่นหิมะให้หนำใจตอนหิมะตกเต็มที่ก็แนะนำเป็นช่วงธันวา-กุมภาพันธ์ค่ะ 

ปรกติแล้ว สกีรีสอร์ทแห่งนี้เปิดให้บริการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี ทั้งนี้ก็ขึ้นกับปริมาณหิมะที่ตกในแต่ละปีด้วยค่ะ ข้อมูลเพิ่มเติมคลิกดูที่นี่เลยค่ะ > Grandeco

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ พอจะเป็นไอเดียสำหรับการท่องเที่ยวครั้งต่อไปได้หรือเปล่าเอ่ย ยังไงที่ Fukushima ก็ยังสวยงามทั้งธรรมชาติและวิถีชีวิตของคนในเมืองนะคะ เมืองเล็กๆ น่ารักแห่งนี้ยังรอทุกคนมาสัมผัสความงดงามด้วยตนเองค่ะ